ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องคอนเวนชั่นโรงแรมรอยัลนาคารา อ.เมือง จ.หนองคายนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุขและ ดร.ไพวัน แก้วปะเสิด รองรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สปป.ลาว ร่วมกันเป็นเจ้าภาพเปิดการประชุมเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้านลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 11ภายใต้แนวคิด “การเอาชนะวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ด้วยภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ดั้งเดิม”ซึ่งมีผู้แทนจากสมาชิก ประกอบด้วยไทย, ลาว, เมียนมา, เวียดนาม, กัมพูชา และจีน เข้าร่วมประชุมหารือ ระหว่างวันที่ 12-14 มิ.ย.นี้
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าลุ่มแม่น้ำโขงเป็นภูมิศาสตร์ลุ่มน้ำที่กว้างใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 6 ประเทศมีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่จำนวนมากซึ่งการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ชาติพันธุ์ยังคงมีบทบาทในการดูแลสุขภาพ การป้องกันและรักษาโรคในชุมชน นับเป็นแหล่งรวบรวมความรู้และภูมิปัญญาด้านการรักษาพื้นบ้านอันเก่าแก่ยาวนาน โดยปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO) และรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศจากภูมิภาคล้านช้าง แม่โขง ตระหนักถึงการนำภูมิปัญญาการแพทย์ดั้งเดิมและการแพทย์พื้นบ้านมาใช้ดูแลสุขภาพประชาชน มีการวางแผนยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์ดั้งเดิม เพื่อกำหนดแนวทางพัฒนาการแพทย์ดั้งเดิมและการแพทย์เสริมของโลก การประชุมเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้านลุ่มน้ำโขงครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก ในการเชื่อมโยงการแพทย์พื้นบ้านกับวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ ส่งเสริมความร่วมมือ และเสริมสร้างรากฐานภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้านโดยอาศัยภูมิปัญญาร่วมกันของ6 ประเทศสมาชิก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งของเครือข่ายการแพทย์พื้นบ้านในการแก้ไขปัญหาสุขภาพยุคใหม่ ตลอดจนเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและขยายเครือข่ายความร่วมมือเชิงนโยบาย ผลักดันงานวิจัยด้านการแพทย์ดั้งเดิมและการแพทย์พื้นบ้าน มุ่งสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการในอาเซียน เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นสำหรับประชาชนทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี