‘กมธ.บุหรี่ไฟฟ้า’ฝ่าเสียงวิจารณ์! เตรียมบินดูงานต้นแหล่งผลิตบุหรี่ไฟฟ้าประเทศจีน ยันบริสุทธิ์ใจ ไร้แอบแฝง รับไม่อาจก้าวล่วงปมเคยถูกร้อง‘กมธ.บางคน’โยงธุรกิจส่อเอื้อประโยชน์ ชี้สุดท้ายต้องลงมติยึดเหตุและผล พร้อมชง 3 แนวทาง แบะท่าเปิดทางไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องมีกฎหมายคุมเข้มป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าถึงได้ง่าย
13มิ.ย.2567 ที่รัฐสภา นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ยืนยันว่าการศึกษาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าของกมธ.ฯ ที่ผ่านมา มีความอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่ง แรงกดดัน หรือคำบงการใคร และไม่มีผลประโยชน์ใดๆ กมธ.ได้ศึกษผลกระทบต่างๆหลายด้านไม่ว่าด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจและการบังคับใช้กฎหมาย และสภาพความเป็นจริงของประเทศไทย ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมไทยที่มีต่อเด็กและเยาวชนไทยเป็นอย่างมาก กมธ.ฯตระหนักและให้ความสำคัญสูงสุด คือการที่บุหรี่ไฟฟ้าระบาดเข้าไปถึงเด็กและเยาวชนไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เราจะต้องมองอย่างรอบด้าน สิ่งที่เรามองไม่เห็นคือเรื่องผลประโยชน์ในหน่วยงานราชการส่วนหนึ่ง พ่อค้า ที่มีมูลค่าหลายพันล้านหรือหมื่นล้านบาท เพราะวันนี้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่กลับมีการระบาดอย่างมากมายในเด็กและเยาวชน กมธ.จะต้องหามาตรการด้านกฎหมาย การควบคุมที่เหมาะสอดคล้องกับสถานการณ์ และสภาพความเป็นจริง และบริบทของประเทศไทยเราด้วย เราจะใช้แบบอย่างบางประเทศก็ใช้ไม่ได้ เช่นบางประเทศก็ควบคุมและดูแลเรื่องกฎหมายได้ดี เช่นสิงคโปร์ แต่จะนำมาใช้ในประเทศไทยทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นคณะกมธ.ได้ตั้งคณะอนุกมธ.2 คณะ คือคณะอนุกมธ.พิจารณามาตรการด้านกฎหมาย และคณะอนุกมธ.จัดทำรายงาน
นายนิยม กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้นเมื่อกมธ.ฯมีข้อสรุปเสร็จจะนำเสนอต่อสภาฯ ส่วนฝ่ายบริหารหรือรัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางใด นอกจากนี้กมธ.ฯ จะเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 26-29 มิ.ย.นี้ เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทางด้านกฎหมาย เศรษฐกิจและสังคม แต่จากข้อมูลเยาวชนของประเทศจีนไม่ติดบุหรี่ไฟฟ้า หรือระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งจะไปดูในส่วนของราชการ การยาสูบของจีน เมืองกวางเจา เพื่อศึกษากฎหมายและสิ่งต่าง ๆ ส่วนที่หลายฝ่ายสงสัยคือการไปดูงานของบริษัทเอกชน ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน เมืองเซินเจิ้น เพื่อที่จะเราจะออกกฎหมายว่านวัตกรรมบุหรี่ไฟฟ้าเขาไปถึงไหนแล้ว จำเป็นต้องหาข้อมูลให้ทันต่อเหตุการณ์ เพื่อจะทันต่อการเปลี่ยนแปลง และนำมาปรับกฎหมายให้ทันต่อเหตุการณ์ เราต้องไปให้รู้เขารู้เรา เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้นก็รบก็ไม่ชนะสักที
“การไปศึกษาดูงานเราไม่ได้มีธงว่าจะตัดสินใจอย่างไร เราไปครั้งนี้กินอยู่อย่างประหยัด ไม่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใดๆ ไม่ได้อยู่ใต้การบงการ คำสั่งหรือแรงกดดันของใครทั้งสิ้น กมธ.ศึกษามีความเป็นอิสระ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย” นายนิยม กล่าว
ด้านนพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ในฐานะฐานะประธานคณะอนุกมธ. พิจารณามาตรการด้านกฎหมายเพื่อควบคุมกํากับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันกฎหมายยังมีช่องโหว่ การบังคับใช้กฎหมายยังขาดความจริงจัง ทำให้เด็กของเรามีโอกาสสูงในการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้า อนุกมธฯได้ศึกษาแนวทางและได้เสนอต่อกมธ.ชุดใหญ่ ใน 3 แนวทางคือ 1. กำหนดให้การใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งแบ่งเป็น 2 ทางเลือกที่เหมาะกับประเทศไทย ทางเลือกที่หนึ่งแก้กฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นประกาศกระทรวงพาณิชย์ คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้มีความชัดเจนและครอบคลุมถึงการครอบครองและผลิตเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง และทางเลือกที่สองจัดให้มีกฎหมายใหม่ในระดับพระราชบัญญัติ เพื่อกำหนดให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายแบบเบ็ดเสร็จ โดยรวมหลักการ มาตรการทุกมิติไว้ในกฎหมาย การห้าม ห้ามการผลิต ห้ามนำเข้า การจำหน่าย ห้ามโฆษณาการสื่อสาร ต่างๆ รวมถึงห้ามการสูบด้วย
นพ.ภูมินทร์ กล่าวว่า 2.กำหนดให้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน เป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย โดยเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผลิตยาสูบแบบให้ความร้อนเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย แก้ประกาศกระทรวงพาณิชย์ แก้คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงต้องบัญญัติกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อควบคุมยาสูบแบบให้ความร้อน ให้เป็นยาสูบตามพ.ร.บ.สรรพสามิต เข้าไปดูในมิติของการควบคุม การเข้าถึง การโฆษณา การสื่อสาร ภายใต้ผลิตภัณฑ์ยาสูบ เป็นต้น และ3.ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย ซึ่งทั้ง 3 แนวทางจะนำเสนอกมธ.ฯชุดใหญ่
นพ.ภูมินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม อนุกมธ.ฯ มีข้อสังเกตเพื่อพิจารณาปรับปรุงกฎหมาย คือ นิยามคำว่า “บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆให้มีความชัดเจน เพื่อให้บังคับใช้กฎหมายอย่างมีมีประสิทธิภาพ 2. ขอให้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางกฎหมาย ทั้งมิติทางกฎหมายและมิติอื่น ๆทุก 5 ปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้นตามความจำเป็น เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้มีการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุดทุกมาตรการ ต้องกำหนดทุกแนวทางให้เข้มข้นป้องกันการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าสำหรับเด็ก และเยาวชนของเรา
เมื่อถามว่าเคยมีการร้องเรียนตัวแทน กมธ.บางท่านที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาสูบ จะทำให้การพิจารณาของ กมธ.มีความเอนเอียงในการเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจยาสูบหรือไม่ นายนิยม กล่าวว่า กมธ.มาจากหลากหลายองค์กร ซึ่งมาถูกต้องตามระเบียบราชการ ซึ่งกมธ.ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะจริงๆเราก็ไม่ทราบมาจากองค์กรไหน ดังนั้นการพิจารณาก็เป็นไปตามเหตุและผล แต่สุดท้ายกมธ.ทั้ง 35 คนก็จะลงมติว่าจะยึดแนวทางไหน คงจะมีเสียงข้างมาก เสียงข้างน้อย ซึ่งทุกความเห็นของกมธ.ก็จะบันทึกหมดให้กับสภาฯ
เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ กมธ.บินไปดูงานต่างประเทศ จะส่งผลกระทบต่อผลการศึกษาของ กมธ.มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ นายนิยม กล่าวว่า ไม่มีผลกระทบใดๆในการตัดสินใจของกมธ. เราไปศึกษาดูงานในประเทศที่มีขนาดใหญ่ แต่แปลกที่เยาวชนเขาไม่ติด ทั้งๆที่เขาเป็นประเทศที่มีบุหรี่ไฟฟ้าจำหน่ายถูกต้อง หรือประเทศสิงคโปร์ถือว่าเป็นประเทศที่ดีมากในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า แต่บริบทของประเทศเขาต่างจากเรามาก การบังคับใช้กฎหมายต่างกัน เราไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราแค่ไปดูงาน ไม่ได้ไปโน้มน้าวจิตใจ เพราะทุกคนไม่ได้มีผลประโยชน์ มีอิสระในการที่จะคิดและทำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี