ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองบุกรวบ คาราโอเกะกลางกรุง แฝงค้ากามเด็กหญิงเด็กชาย (LGBTQ+) ทำงานใช้หนี้ ดอกเบี้ยโหด พร้อมช่วยเหลือเหยื่ออายุ 15 พ้นนรกบนดิน
มท.1 สั่งการอธิบดีกรมการปกครองส่งกำชับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองรุดเข้าช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ พบเป็นเด็กหญิงและ LGBTQ+ จำนวน 3 ราย ถูกค้าประเวณี ที่ร้านคาราโอเกะย่านลาดปลาเค้า ซึ่งจะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องทุกรายไม่มีข้อละเว้น
วันที่ 14 มิถุนายน 2567 นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้กรมการปกครองได้นำข้อมูลเบาะแสที่รับแจ้งจากมูลนิธิอิมมานูเอล (IMF) ว่ามีคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร มีการนำเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าประเวณี โดยมีลักษณะให้เด็กสามารถออกไปนอกร้านกับแขกที่มาเที่ยวได้ ซึ่งจะพาไปยังโรงแรมที่พักแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง จนเชื่อได้ว่าจะเป็นการค้าประเวณี
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครอง ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ส่งสายลับเข้าทำการสืบสวนหาข้อเท็จจริง ในคืนวันที่ 13 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 22.00 น. สายลับได้เข้าทำการสืบสวนที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง บริเวณปากซอยลาดปลาเค้า 75 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และได้ทำการล่อซื้อ จึงพบว่ามีพฤติการณ์การกระทำความผิดตามที่ได้รับแจ้งจริง จึงได้รายงานมายังผู้บังคับบัญชา และชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซึ่งตั้งกำลังสแตนบายเข้าปฏิบัติการบริเวณใกล้เคียง
"เมื่อสายลับแจ้งพฤติการณ์ที่เข้าข่ายการกระทำความผิด นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง จึงได้นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กรมการปกครอง โดยแบ่งกำลังเป็น 2 ส่วน ชุดแรก เข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหาย และชุดที่ 2 เข้าทำการจับกุมเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ที่ลักลอบเปิดให้บริการเป็นโรงแรม ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 3 คน ที่ถูกแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ" นายอรรษิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม
ด้าน นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ได้รับมอบหมายจากนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ให้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงจากการรับแจ้งจาก IMF กรณีคาดว่ามีความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายการจัดระเบียบสังคมและสร้างความสงบเรียบร้อยและความผาสุกให้กับสังคมของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเป็นไปตามข้อสั่งการของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กำชับให้ข้าราชการฝ่ายปกครอง ได้สนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อร่วมกัน Change for Good แก้ไขในสิ่งผิด ด้วยการร่วมสร้างสรรค์สังคมแห่งความสุขที่ยั่งยืนให้กับประชาชน
"จากการเข้าตรวจค้น พบเรื่องของการนำเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีมาแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ เข้าข่ายเป็นเรื่องของการค้ามนุษย์ โดยพบเด็ก 3 คน แบ่งเป็น เด็กหญิงที่มีอายุ 15 ปี จำนวน 2 คน และเด็ก LGBTQ+ อายุ 16 ปี อีก 1 คน และเราพบว่าคาราโอเกะแห่งนี้ มีการให้เด็กสามารถที่จะออกไปกับแขก และทางร้านรับส่วนแบ่ง มีข้อมูลที่น่าสนใจว่า เด็กหญิงทั้ง 2 ราย เดินทางมาจากต่างจังหวัด และมีการติดหนี้ทางร้านเพื่อที่จะเอาเงินไปรักษาแม่ และทางร้านเรียกอัตราดอกเบี้ยโหดถึงร้อยละ 10 ต่อวัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่หนักมาก และเด็กต้องจ่ายด้วยค่าตัว ค่าดริ้ง อย่างค่าดริ้ง ถูกหักร้อยละ 80 ต่อวัน ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก โดยกระบวนการหลังจากนี้ เราจะนำเด็กเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM :National Referal Mechanism) เพื่อที่จะคัดกรองและคัดแยกโดยสหวิชาชีพ เพื่อที่จะดูว่าเด็กเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่า "เป็นแน่ ๆแล้ว" เพราะมีการนำเด็กไปที่อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งดัดแปลงสำหรับประกอบธุรกิจโรงแรม โดยสามารถไปให้บริการทางเพศกับแขกได้ และเรากำลังขยายผลโรงแรมต่อว่า โรงแรมมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะเด็กไปเข้าโรงแรมนี้ประจำ เพราะเจ้าหน้าที่โรงแรมจะจดชื่อเล่นและเบอร์เด็ก ก็คือรู้จักกันแน่นอน มีการให้เด็กมาที่โรงแรมนี้เท่านั้น เหมือนกับเขาดิวกับทางร้าน และสายลับลองถามดูว่าสามารถไปโรงแรมอื่นได้ไหม เขาบอกว่าไม่ได้ ต้องโรงแรมนี้เท่านั้น ซึ่งจะได้มีการขยายผลต่อไป โดยสถานีตำรวจนครบาลบางเขนร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นอกจากนี้ จะมีการจับกุมโรงแรมด้วย เพราะตรวจสอบเบื้องต้นแล้วทางโรงแรมไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ในส่วนของข้อหาค้ามนุษย์ หรือจะมีส่วนสนับสนุนรู้เห็นกับการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น อยู่ที่การสืบสวนสอบสวนขยายผล" นายรณรงค์ กล่าวเพิ่มเติม
นายรณรงค์ กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้น ผู้กระทำความผิดยอมรับแล้วว่าเป็นเจ้าของ และน่าจะจำนนต่อหลักฐานแล้ว เพราะมีหมายเลขธนบัตรที่เราเอาลงเป็นหลักฐานไว้เรียบร้อย ก็ปรากฏว่าอยู่ในร้านนี่แหละที่ใช้ในการซื้อประเวณีเด็ก และทางร้านได้รับส่วนแบ่ง ทั้งนี้ ที่เราทราบในเบื้องต้นเด็กมาไม่นานมากเท่าไหร่ โดยเด็กหญิง 2 คนมาจากจังหวัดเดียวกัน ส่วนเด็ก LGBTQ+ เรายังไม่ทราบว่ามาจากจังหวัดอะไร ซึ่งต้องรอกระบวนการ NRM
"การลักลอบกระทำความผิดของร้านคาราโอเกะแห่งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ตลอดจนถึงชุดปฏิบัติการพิเศษพนักงานฝ่ายปกครองของจังหวัด อำเภอ ได้มีการจับกุมอยู่บ่อยครั้ง จึงถือเป็นค่านิยมที่ผิดที่คาราโอเกะหลายแห่งพยายามที่จะเลี่ยงกฎหมาย และแอบทำโดยที่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยากที่จะมีการตรวจตรา เนื่องจากเวลามีการมาตรวจเขาก็ให้บริการปกติ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือฝ่ายปกครองที่มาตรวจส่วนใหญ่ก็จะไม่เห็นขณะที่เขาค้าประเวณี แน่นอนเจ้าหน้าที่เข้ามาเขาไม่กล้าทำแต่ถ้าเจ้าหน้าที่ออกไปเมื่อไหร่ เขาก็แอบที่จะทำ เพราะได้ผลประโยชน์ค่อนข้างมาก ทั้งนี้ เราจะนำเด็กทุกรายเข้ากระบวนการ NRM เราอยากทราบกระบวนการนำพาเด็กมาว่ายังไง และมีอีกร้านหนึ่งที่เจ้าของร้านนี้ก็เป็นเจ้าของอีกร้านนึงด้วย โดยเราจะขยายผลว่ามีการใช้บริการทางเพศกับเด็กหรือไม่ เพราะเบื้องต้นก็ทราบว่ามีข้าราชการเข้ามาใช้บริการด้วย เดี๋ยวจะมีการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป" นายรณรงค์ กล่าวเน้นย้ำ
นายรณรงค์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ในเบื้องต้น พนักงานฝ่ายปกครองแจ้งข้อหา เจ้าของร้านคาราโอเกะ มีความผิด 1. ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ค้ามนุษย์ แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก 3. เป็นธุระจัดหา สำหรับการคัาประเวณี เด็กอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี 4. ส่งเสริมยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 5. ส่งเสริมยินยอม ให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะ ลามกอนาจาร 6. จ้างงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยไม่แจ้งการจ้างต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน และ 7. เป็นนายจ้างให้ลูกจ้าง อายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงาน ในเวลาระหว่าง 22.00 - 06.00 น. และในส่วนของเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ถูกแจ้งข้อหาประกอบกิจการโรงแรม โดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ สำหรับข้อหาสนับสนุนการค้ามนุษย์ หรือร่วมกันหรือไม่ อยู่ที่การสืบสวนสอบสวน และในส่วนของผู้ที่ดูแลแทนกันและรับเงินแทนกัน จะต้องมีการสอบปากคำ ถ้ามีการกระทำที่เข้าข่าย ก็ต้องโดนข้อหาเดียวกัน ตนจึงขอย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะ ตลอดจนสถานที่ที่แอบแฝงการค้าประเวณี หรือการนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าประเวณี ว่า การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ประชาคมโลกไม่ยอมรับและพยายามกำจัดให้หมดสิ้นไป กระทรวงมหาดไทยมีการดำเนินนโยบายจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยมีภารกิจที่หลากหลายให้ต้องเฝ้าระวังการกระทำความผิด โดยกรมการปกครองมีภารกิจที่สำคัญอันเกี่ยวข้องกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ที่ถือเป็นวาระแห่งชาติซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ และเป็นหนึ่งในภารกิจการจัดระเบียบสังคมด้วย และจะต้องดำเนินกระบวนการทางกฎหมายอย่างรอบคอบและจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำต่อเด็กและเยาวชน จะเป็นการสร้างตราบาปให้กับเด็กไปตลอดชีวิต จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องช่วยกันดูแลสอดส่องและระมัดระวัง โดยหากพี่น้องประชาชนมีเบาะแส สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม หมายเลข 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งมายังที่ทำการปกครองจังหวัด บริเวณศาลากลางจังหวัด หรือที่ทำการปกครองอำเภอ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 ซึ่งข้อมูลของผู้แจ้งจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับ และเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการกับผู้กระทำความผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี