ครบรอบ 122 ปี กรมชลประทาน มุ่งสู่ปีที่ 123 พัฒนางานด้านชลประทานอย่างไม่หยุดนิ่ง มุ่งสร้างความมั่นคงทางด้านน้ำ เพิ่มคุณค่าการบริการ ก้าวสู่องค์กรอัจฉริยะ จัดกิจกรรมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 122 ปีกรมชลประทาน “น้ำมั่นคงอนาคตยั่งยืน” โดยได้รับเกียรติจาก ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมี นายชูชาติ รักจิตรอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะผู้บริหาร ตลอดจนข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เข้าร่วมงาน
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 122 ปีกรมชลประทาน “น้ำมั่นคง อนาคตยั่งยืน” ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน มุ่งมั่นที่จะพัฒนาการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการนำความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำรวมทั้งการสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศต่างๆเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ด้านการบริหารจัดการน้ำ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศไทยต่อไป
“สิ่งที่จำเป็นที่กรมชลประทานต้องทำคือ จะต้องทำแผนที่ผันน้ำในทุกจังหวัด ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ สู่ลุ่มน้ำสายหลัก ต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และหากเรามีแผนที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ผ่านไปได้ นอกจากนี้ การกักเก็บน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่าอุณภูมิที่สูงขึ้น จะต้องมีระบบการกระจายน้ำที่เป็นระบบปิดหรือระบบท่อ เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ อีกทั้งยังต้องขยายพื้นที่ชลประทานในพื้นที่ภาคการเกษตร ไม่ต่ำกว่า 40 ล้านไร่ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้กรมชลประทานเตรียมรับสถานการณ์น้ำช่วงฤดูฝน ที่คาดว่าจะมีฝนตกหนัก และมากกว่าปีที่แล้ว จึงต้องเตรียมแหล่งกักเก็บน้ำ และศึกษาเส้นทางน้ำทั้งหมด รวมถึงได้ลงพื้นที่ที่มีน้ำท่วมซ้ำซาก เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป” รมว.เกษตรฯ กล่าว
นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ทุ่มเททำงานเพื่อสานต่องานด้านชลประทานอย่างไม่หยุดนิ่ง จวบจน 122 ปี ในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 นี้ กรมชลประทาน ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้างาน ตามภารกิจหลักภายใต้ยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้กว่า 49.5 ล้านไร่ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ประมาณ 93,655 ล้านลูกบาศก์เมตร มุ่งเน้นเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่า ใน 4 ปีสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรด้วยหลักการ “ตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ตามนโยบายรัฐบาล ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเกษตรกร โดยมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
ภายใต้แนวทางการบริหารงาน “RID TEAM PLUS” ซึ่งได้ต่อยอดจากแนวทาง RID TEAM ตาม 3 หลักคิด คือเชื่อถือได้ หลากหลาย นวัตกรรม นำสู่การพัฒนา มุ่งปฏิบัติงานด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ยกระดับการทำงานสู่ระดับสากล เน้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อยกระดับการทำงานกับเครือข่ายอย่างแน่นแฟ้น มุ่งให้เกิดผลการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดเป้าหมายหลักในการดำเนินงานไว้ 3 ประเด็น 15 กลยุทธ์ ได้แก่
ประเด็นที่ 1 องค์กรอัจฉริยะ (RID Intelligent Organization)จัดการและบูรณาการระบบเทคโนโลยีฐานข้อมูล (Big Data) พัฒนากระบวนการทำงานสู่ระบบ Digital Platform พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ จัดการความรู้(KM) เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร พัฒนาระบบชลประทานด้วยเทคโนโลยี (IoT)
ประเด็นที่ 2 ความมั่นคงด้านน้ำ (Water Security) มุ่งพัฒนาแหล่งน้ำโครงการพระราชดำริและเขตพัฒนาพิเศษ เร่งเพิ่มพื้นที่ชลประทานและปริมาณน้ำต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพโครงการชลประทาน บริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ พัฒนารูปแบบและแนวทางการรับมือภัยพิบัติทางน้ำ ปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงานและงบประมาณทั้งระบบ
ประเด็นที่ 3 เพิ่มคุณค่าการบริการ (Value to service) เสริมสร้างการมีส่วนร่วม สร้างเครือข่ายการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน พัฒนาโครงการชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำ พัฒนาทรัพยากรบุคคล เสริมสร้างความผาสุกและคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมสนับสนุนการขับเคลื่อน BCG Economy Model ตามนโยบายรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี