สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้มีกลุ่มนักศึกษาช่างกลสถาบันย่านรามคำแหง ยกพวกตีกัน ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มนักศึกษาต่างสถาบันย่านพระโขนง เป็นเหตุให้นักศึกษานักศึกษาต่างสถาบันย่านพระโขนง เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 คน ฝ่ายสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งหมดเป็นนักศึกษาช่างกลสถาบันย่านรามคำแหง รวมจำนวน 14 ราย โดยผู้ก่อเหตุ เป็นเด็กและเยาวชน จำนวน 9 ราย และอายุเกิน 18 ปี จำนวน 5 ราย โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุถูกให้ออกจากสถาบันแล้ว ยึดของกลาง 1.อาวุธปืนแบบหักลำ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก 2.อาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก 3.รถจักรยานยนต์ ที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 8 คัน
โดยกล่าวหาว่า “สมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่าผู้อื่น อันเป็นความผิดฐานซ่องโจร, ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือชุมชน, ทะเลาะกันอย่างอื้นอึงในทางสาธารณะ, ชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้”
พฤติการณ์ ด้วยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 15.30 น. เกิดเหตุกลุ่มนักศึกษาช่างกลย่านรามคำแหง ใช้อาวุธปืนยิงนักศึกษาต่างสถาบันย่านพระโขนง เป็นเหตุให้นักศึกษานักศึกษาต่างสถาบันย่านพระโขนง เสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 คน บริเวณ ปากซอยวชิรธรรมสาธิต 14 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ
สืบนครบาล ,สืบสวนนครบาล 5 ร่วมกับสืบสวน สน.บางนา ร่วมทำการสืบสวนจนทราบผู้กระทำความผิดเบื้องต้น จำนวน 14 ราย เป็นนักศึกษาและอดีตนักศึกษา อายุระหว่าง 15-21 ปี จึงได้ขออนุมัติศาลอาญาพระโขนง และศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อขออนุมัติหมายจับ และได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้ง 14 ราย ผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ทั้งหมดเป็นนักศึกษาและอดีตนักศึกษาช่างกลสถาบันย่านรามคำแหง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมพร้อมยึดของกลางดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับให้ทราบแล้ว ผู้ถูกจับให้การว่า ตามวันเวลาดังกล่าว ขณะที่กลุ่มของตน กำลังตะเวนส่งรุ่นน้องเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้พบกลุ่มนักศึกษาต่างสถาบัน จึงได้มีปากเสียง และต่างฝ่ายต่างมีอาวุธ เข้าตะลุมบอลกัน และแยกย้ายกันหลบหนี
ต่อมาวันนี้ เจ้าหน้าที่สืบนครบาล สืบสวน บก.น.5 และสืบสวน สน.บางนา ได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นเป้าหมายทั้ง 8 จุด เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ดังนี้
- นายเอ อายุ 17 ปี เข้าค้นบ้าน ม.4 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายบี อายุ 16 ปี เข้าค้นบ้าน ม.14 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายสิริ (บิ๊ก) อายุ 18 ปี เข้าค้นบ้าน เด่นชัยคลองเสี่ยเฟส2 ต.ราชาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายซี อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ที่เข้าค้นห้องพัก ในอพาร์ตเมนต์ สุขุมวิท 74 (ร้านดอกไม้เยาวภา) ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง สมุทรปราการ ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายกนก (บูม) อายุ 20 ปี เข้าค้นบ้าน ซอยข้าง รร.รุ่งเรืองวิทยา 1 แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กทม. ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายดี อายุ 16 ปี เข้าค้นบ้าน ซ.บางแก้ว ซอย 6 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สุทรปราการ ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายนราภัทร (เดฟ) อายุ 18 ปี เข้าค้นบ้าน ซอยวัดหลวงพ่อโต ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
- นายนันทพัทธ์ (โชกุน) อายุ 18 ปี เข้าค้นบ้าน ซ.อ่อนนุช 29 แขวง/เขตสวนหลวง กทม. ผลตรวจค้น ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย
พถล.ต.ต.ธีรเดช ขอฝากไปถึงนักเรียนนักเลง ว่าให้หยุดพฤติกรรมใช้ความรุนแรง เพราะตำรวจยืนยันว่าเอาจริงที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีนักเรียนนักเลง ที่ก่อเหตุแล้วเรียนจบ มีงานทำได้เงินเดือน แต่ก็ต้องถูกจับดำเนินคดีจนเสียอนาคต เพราะความผิดที่เคยก่อขึ้น และขอฝากประชาสัมพันธ์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยสอดส่องดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี