"บิ๊กเต่า"เปิดเบื้องหลังการหลบหนีของเรือขนน้ำมันเถื่อน 3 ลำ เผยมีการวางแผนล่วงหน้ามาหลายวันก่อนสบโอกาส เผยลูกเรือซัดทอดไต๋ก๋งเป็นคนคอยรับคำสั่งจากจอมบงการ แอบซุกจีพีเอสสำรองไว้ใต้เตียงรอดหูรอดตาเจ้าหน้าที่ จนสามารถถ่ายน้ำมันทัังหมดลงเรือใหญ่สำเร็จ ล่าสุดคุมตัว 8 ลูกเรือขึ้นเครื่องบินกลับเมืองกรุง เค้นสอบต่อตลอดคืน ก่อนส่งฝากขังพรุ่งนี้ จัดชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ- มัจฉานุตำรวจน้ำ คุมเข้มตลอดทาง
คืบหน้าเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง จำนวน 3 ลำ พร้อมน้ำมันอีกกว่า 3 แสนลิตร หลบหนีออกจากท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนตามยึดคืนกลับมาได้ และนำเข้าเทียบฝั่งที่ จ.สงขลาในช่วงเวลา 18.00-19.00 น.เมื่อวานนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ 18 มิถุนายน 2567 ที่กำกับการตำรวจน้ำสงขลา พล.ต.ตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตั้งแต่เรือหลบหนี ทางตำรวจสอบสวนกลางได้กดดันอย่างหนักโดยมีการประสานไปยังประเทศเพื่อบ้านเพื่อติดตามเรือกลับมา จนสามารถจับกุมได้ห่างจากชายฝั่ง จ.สงขลา ประมาณ 90 ไมล์ทะเล ทั้ง 3 ลำ และลูกเรือจำนวน 8 คน ได้แก่คือนายสุนทร เขียวสุวรรณ อายุ 62 ปี เป็นชาวสงขลา นายธานินทร์ ชลประดับ อายุ 52 ปี ชาวสงขลา นายจำปี เยาวกุล อายุ 62 ปี ชาวสงขลา นายบุญใจ เอียดถนอม อายุ 53 ปี ชาวนครศรีฯ เป็นลูกเรือเจ.พี. นายศิริพงษ์ ทองขวัญ อายุ 51 ปี ชาวราชบุรี นายอุดร แสนใหม่ อายุ 48 ปี ชาว จ.เลย นายสมชาย กองโอสถ อายุ 63 ปี ชาวสมุทปราการ เป็นลูกเรือกำไรเงิน และนายเดชา จรรยาลักษณ์ อายุ 66 ปี ชาวจังหวัดประจวบฯ ลูกเรือดาวรุ่ง และผู้ต้องหาที่หนีหายไปอีก 7 ราย ซึ่งทั้ง 8 ตาย ถูกสอบสวนอย่างละเอียด
พล.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบสวนผุ้ต้องหาทั้ง 8 ราย ให้การเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยมีไต๋ก๋งเรือของคนหนึ่ง บอกว่า ได้มีคำสั่งจากเจ้าของเรือให้นำเรือออกจากท่าเรือ และมีการวางแผนการหลบหนีเอาไว้แล้วหลายวัน แต่ไม่สบโอกาส จนถึงวันที่เรือทอดสมออยู่นอกชายฝั่งประจวบกับคืนวันเกิดเหตุคลื่นลมสงบ ไต๋ก๋งเรือจึงนำเรือออกจากท่าโดยมีเรือเจ.พี. เป็นเรือนำเนื่องจากไต๋ก๋งเรือบอกว่าเรือเจพีมีเจพีเอสสำรองที่แอบไว้ใต้เตียง ซึ่งลอดสายตาของเจ้าที่ที่เข้าจับกุม ซึ่งการออกจากท่าเรือสัตหีบนั้นช่วงแรกจะใช้ความเร็วประมาณ 2 น๊อตเพื่อลดเสียงดังจนพ้นแนวอ่าว จึงเร่งความเร็วโดยมีคำสั่งให้ล่องเรือไปยังประเทศกัมพูชาและให้ถ่ายน้ำมันทั้งหมดลงเรือใหญ่ที่มีการนัดหมายเอาไว้แล้วและลูกเรือจำนวน 7 คนได้ขึ้นเรือใหญ่ไปด้วย หลังจากนั้นได้มีคำสั่งจากเจ้าของเรือให้เรือทั้ง 3 ลำเดินทางลงมาทางใต้
"จากการสอบสวนลูกเรือ สารภาพว่าได้รับคำสั่งให้เดินเรือไปยังเขตเศรฐกิจพิเศษ AEC ซึ่งเป็นพื้นที่เขตเศรฐกิจเฉพาะ 3 ประเทศ มีเวียดนาม กัมพูชาและไทย แต่เมื่อมาถึงเขตชายฝั่งสงขลา เรือดาวรุ่งได้เกิดเสีย ทำให้ต้องลากไปจนเกิดความล่าช้า จนเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมได้ จากการตรวจสอบเรื่อทั้ง 3 ลำมีการดังแปลงสภาพโดยเฉพาะเรือซีฮอท หรือกำไรเงินนั้นมีการพยายามทาสีเรือใหม่จากสีน้ำเงินเป็นสีเขียว ทั้งนี้ลูกเรือยังอ้างว่า ลูกเรือทั้งหมดจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้เพียงว่าไต๋ก๋งเรือสั่งให้ไปทางใหนก็ต้องไปตามคำสั่ง มีเพียงไต๋ก๋งเรือเท่านั้นที่จะติดต่อกับเจ้าของเรือโดยผ่านโทรศัพท์ดาวเทียม"พล.ต.จรูญเกียรติ ระบุฃ
พร้อมระบุว่า การสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจสัตหีบทั้ง 4 นาย ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริตหรือไม่ อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งจะเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งยอมรับว่าวงการค้าน้ำมันเถื่อนมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นขบวนการที่มีมูลค่าค่อนข้างสูง แต่ยืนยันว่าถ้าหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ บุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกระทำผิดชัดเจนก็จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ในส่วนของความเสียหายเสียที่เกิดขึ้นต่อรัฐ ทางจะมีการฟ้องละเมิด และฟ้องแพ่งกับบุคคลที่มีการกระทำความผิด เอาเงินไปชดใช้เพื่อนำเงินไปชดใช้ให้กับรัฐ
"ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน (พฐ. ) บอกว่า น้ำมันที่หายไปคือน้ำมันดีเซล สีเหลืองโดยไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าน้ำมันที่เหลืออยู่เหลือกี่ลิตร จะต้องรอทางตำรวจน้ำดูดน้ำมันขึ้นมาถึงจะให้ความชัดเจนได้ ส่วนน้ำมันที่อยู่ในเรือและน้ำมันที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 17 มีนาคมจะเป็นน้ำมันชนิดเดียวกันหรือไม่ จะต้องนำผลการตรวจครั้งเก่าและครั้งล่าสุดนี้มาเทียบเคียงกัน หมดแล้วเนี่ยจึงจะสามารถทราบได้ ยืนยันว่าการจับกุมครั้งนี้ไม่ได้เป็นการจัดฉากหรือสร้างภาพ หรือมีการประสานกับทางผู้บงการ เพื่อส่งมอบเรือคืนให้กับทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด"พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวย้ำ
นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนกลางทะเลว่า การซื้อขายนั้นเจ้าของเรือ หรือผู้บริหารจะทำการซื้อขายจ่ายเงินกันบนฝั่ง หลังจากนั้นจะแจ้งพิกัดไปให้ลูกน้องที่อยู่ของทั้งคู่ให้ไปตามพิกัดและขนถ่ายน้ำมันกัน สำหรับเรือของกลางทั้งหมดจะจอดไว้ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสงขลาก่อน และจะมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้มีประวัติศาสตร์ซ้ำลอยจะเป็นความรับผิดชอบของจำรวจน้ำสงขลา
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ นำตัว 8 ลูกเรือผู้ต้องหาขโมยเรือน้ำมันเถื่อนของกลาง เดินทางมายังกองบิน 56 จ.สงขลา เพื่อขึ้นเครื่องบินเตรียมนำตัวมาสอบปากคำต่อยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยมี เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษมัจฉานุ ตำรวจน้ำ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือคอยคุ้มกันความปลอดภัย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการเดินทางถึงกรุงเทพมหานครประมาณ 22.00 น. ของวันเดียวกัน ซึ่งทันทีที่เครื่องเดินทางมาถึง ก็จะมีการส่งตัวผู้ต้องหาต่อให้กับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ รับตัวเดินทางต่อไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อทำการสอบปากคำต่อในทันที ก่อนจะมีการส่งตัวฝากขังในวันพรุ่งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี