“ดร.จอห์น” ปธ.สภากทม. ดันวิชามวยไทยสอนใน รร.กทม. รับลูกนโยบายกทม. พร้อมปัดฝุ่นรร.ดนตรี / ส่งเด็กฝึกบอลต่างประเทศ มอบโอกาสต่อยอดสร้างอาชีพในอนาคต
นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอห์น) ประธานสภากรุงเทพมหานครเปิดเผยว่า ตนในฐานะประธานสภากรุงเทพมหานครได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือกับนายธนกร ไชยศรี ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร ในการเดินหน้าผลักดัน “มวยไทย” บรรจุเป็นหลักสูตรวิชาทางเลือกในกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ให้กับโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง437 โรงเรียน ตามนโยบายของ นายชัชชาติสิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดย กทม.ตั้งเป้าขยายผลและขับเคลื่อนด้านซอฟต์ พาวเวอร์ ให้เยาวชนรู้จักและเรียนรู้“มวยไทย” ซึ่งเกิดประโยชน์หลายด้าน เป็นการฝึกฝนเด็กนักเรียนให้มีระเบียบวินัย ความเข้าใจกัน มีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเป็นพลเมืองที่ดี โดยนักเรียนจะได้เรียนกับ ครูมวยไทยที่จบหลักสูตรมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทยโดยตรง และจะมีการจัดกิจกรรมสอนมวย after school สำหรับบุคคลภายนอกหรือหน่วยงานที่สนใจ โดยใช้พื้นที่ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครด้วย
นายสุรจิตต์กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีมากในการผลักดันวิชามวยไทยมาสอนในโรงเรียนสังกัดกทม. ให้เด็กได้เรียนรู้มวยไทย สามารถพัฒนาต่อยอดเป็นอาชีพหลักได้ อีกทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติด และนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี ฝึกฝนความอดทน ยังเป็นศิลปะป้องกันตัวให้เอาตัวรอดในยุคที่สังคมต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยงจากภัยหลายรูปแบบ และเด็กๆ ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เข้าใจวัฒนธรรม เห็นคุณค่าในการอนุรักษ์มรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรมไทยอีกด้วย ซึ่งหลักสูตรวิชามวยไทยจะเริ่มทำการเรียนการสอนในปีการศึกษา 2568
“ในต่างประเทศ อย่างเช่น ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ ก็มีการบรรจุวิชาความรู้ที่เป็นวัฒนธรรม เข้าไปในหลักสูตรเพื่อสอนเด็กๆ ตั้งแต่ในระดับโรงเรียนประถมและมัธยม มวยไทยของเราเป็นซอฟต์ พาวเวอร์ ในด้านกีฬา ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากคนทั่วโลก ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากมาประเทศไทยเพื่อมาฝึกเรียนมวยไทยโดยเฉพาะ ดังนั้น เด็กไทยควรได้รับโอกาสเรียนรู้วิชาที่เป็นมาตุภูมิของไทยเรา เพื่อต่อยอดในการเสริมสร้างอาชีพได้ในอนาคต โดยสภาฯจะผลักดันและสนับสนุนให้กทม.ทำความร่วมมือกับค่ายมวยต่างๆ มาฝึกสอนเด็กๆ ผลักดันให้เด็กที่มีความสามารถโดดเด่นในแต่ละโรงเรียนได้ต่อยอดไปเป็นอาชีพ เพื่อให้เด็กมีแรงบันดาลใจในการฝึกมวย รวมไปถึงเรื่องของฟุตบอลก็จะผลักดันในแนวทางเดียวกัน โดยทำ MOU กับสภาเมืองพี่เมืองน้องเพื่อส่งเสริมให้เด็กที่มีความสามารถได้รับโอกาสไปฝึกที่สโมสรในต่างประเทศเพื่อต่อยอดไปเส้นทางอาชีพได้” นายสุรจิตต์ กล่าว
นอกจากนี้ สภากทม.จะผลักดันโรงเรียนดนตรีของกทม. ที่หายไปตั้งแต่ปี 2561 ปัดฝุ่นให้กลับมาอีกครั้ง และต่อยอดให้เด็กได้รับโอกาสทางอาชีพโดยทำ MOU กับค่ายเพลงด้วยเช่นกันรวมไปถึงเรื่องซอฟต์ พาวเวอร์ ด้านอื่น เช่นเรื่องอาหาร ก็จะผลักดันให้เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้ตรงจากเชฟมืออาชีพที่ไปสอนในโรงเรียนกทม. โดยเราต้องทำในเชิงรุกประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ให้เกิดประโยชน์โอกาสกับเด็ก เยาวชนและประชาชนคนกรุงเทพฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี