"ทวี"เผยสถิติผู้ป่วยใช้กัญชา-กระท่อม บำบัดเพิ่มสูงขึ้น 10 เท่า ขณะที่รัฐบาลเร่งรัดออกกฎหมายควบคุม พ้อจำนวนนักโทษอาจพุ่งเกิน 300,000 ราย

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กทม. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.ร่วมกันแถลงเปิดตัวโครงการสื่อสาร สร้างสรรค์ รู้เท่าทันยาบ้า (Be Smart Say No To Drugs) โดยเชิญชวนเยาวชน มัธยมศึกษาตอนต้น ตอนปลาย อาชีวศึกษา หรือเทียบเท่า อายุระหว่าง 13 - 19 ปี ประกวดทำคลิปวิดีโอสั้นภายใต้แนวคิด "How to say no to YABA" ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 24 ล้านบาท ผู้เข้ารอบในระดับประเทศจะได้เรียนรู้เทคนิคการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง อาทิ พ่อมดติ๊กต๊อก, โค้ดดี้ เสือร้องไห้, หนุ่ย แบไต๋ และอื่นๆ อีกมากมาย

โดย พ.ต.อ.ทวี เผยว่า ยาบ้ายังเป็นยาเสพติดที่แพร่ระบาดในประเทศ ไทยมากที่สุด ในขณะที่ปริมาณการเข้าถึงเรื่องยาเสพติดกับเด็กและเยาวชนค่อนข้างเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จำนวนผู้ต้องขังทั่วประเทศทะลุ 300,000 ราย ส่วนใหญ่มาจากคดียาเสพติด เราจึงพยายามไม่ให้คนไทยต้องกระทำผิดแล้วเข้าสู่เรือนจำ

พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า เราเป็นห่วงอันตรายอีกประการคือเรื่องกัญชาและกระท่อม ที่กฎหมายยังไม่เข้มแข็ง ไม่เข้มงวด จึงส่งผลกระทบค่อนข้างสูง รัฐบาลจึงพยายามควบคุมเรื่องกัญชาและกระท่อม เพราะพืชทั้งสองส่วนมีผลต่อตัวเลขผู้ใช้ที่เข้ารับการบำบัดในระบบสาธารณสุข ทราบว่าจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ถือเป็นเรื่องน่าห่วง

พ.ต.อ.ทวี ระบุต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีการประกาศกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ หรือยาบ้า 1 เม็ด คือผู้เสพนั้น การกำหนดเกณฑ์ดังกล่าวสอดคล้องกับสาระสำคัญในประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ปี พ.ศ.2564 ที่พูดถึงการครอบครองเพื่อเสพ โดยให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ไปกำหนดว่าการครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการครอบครองเพื่อเสพ โทษ 2 ปี ไม่ใช่ไม่มีโทษ แต่ถ้าครอบครอง 2 เม็ด จะไม่ใช่เพื่อเสพ แต่จะโดนอัตราโทษไม่เกิน 15 ปี ซึ่งกฎหมายนี้มันจะมีผลในการปรับตัวของกระบวนการยุติธรรมไปสู่ราชทัณฑ์อย่างแรง จึงต้องไปเตรียมการไว้ มีความเป็นไปได้ว่าจำนวนผู้ต้องขังในอนาคตอาจพุ่งเกิน 300,000 ราย อย่างไรก็ต้องไปวางแผนเพื่อแก้ปัญหาภายใน

- 006