"ผกก.ตัวจริง" เมืองนนทบุรี แจ้งจับ "ผกก.มิจฉาชีพตัวปลอม" หลอกผู้เสียหายส่งใบแจ้งความข่มขู่ให้โอนเงินให้ 2.5 หมื่นบาทหลังทำเรื้องยื่นกู้ ไม่โอนฟ้องเรียก 9 ล้านบาท

พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี หลังตกเป็นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพนำชื่อและตำแหน่งไปใช้ในการหลอกลวง ข่มขู่ผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งให้โอนเงินไปให้จำนวน 5 หมื่นบาทหลังผู้เสียหายหญิงรายนี้ได้เข้าไปกู้เงินที่ลงประกาศไว้ในโลกออนไลน์ แต่ต่อมาเมื่อหญิงผู้เสียหายสมัครตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพบอกแล้วกลับไม่ได้เงินโอนตามที่ตกลงไว้ จึงได้ยกเลิกธุรกรรมกับมิจฉาชีพรายนี้ไป ทำให้ต่อมาทางมิจฉาชีพได้ส่งข้อความทางไลน์มาข่มขู่พร้อมกับใบแจ้งความว่า "ผู้เสียหายหญิงมีเจตนาเข้ามาก่อกวนบริษัทเพื่อให้เกิดความเสียหายไปในทางฉ้อโกง ทางบริษัทจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญคดีของ สภ.เพชรบูรณ์ เพื่อดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 9 ล้านบาท"

จากการสอบถาม น.ส.ลัดดา (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า เริ่มแรกตนเกิดปัญหาต้องรีบใช้เงินจึงได้เข้าไปเซิร์ชหาข้อมูลเงินกู้ในโลกออนไลน์ จึงพบกับเงินกู้รายหนึ่ง ตนจึงได้ติดต่อไปและทำธุรกรรมตามขั้นที่มิจฉาชีพแนะนำมา แต่ปรากฎว่าไม่มีเงินเข้าบัญชีตามที่ทำธุรกรรมไว้ ตนจึงทักบริษัทนั้นกลับไป ซึ่งทางบริษัทก็ตอบกลับมาว่าตนใส่บัญชีรับโอนผิดเอง ทางบริษัทจึงได้แจ้งว่าให้ตนหาเงินจำนวน 2.5 หมื่นบาทส่งชดใช้ให้กับทางบริษัท เพราะไม่อย่างนั้นทางบริษัทจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเป็นเงินจำนวน 9 ล้านบาทแทน แต่ตนไม่ได้มีเงินขนาดนั้น จึงได้ตอบกลับไปว่าตนไม่มีเงิน 

จากนั้นทางบริษัทได้ทักข้อความไลน์ พร้อมกับส่งใบแจ้งความดำเนินกลับมาให้ตน ทำให้ตนตกใจเกรงว่าจะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเรียกค่า 9 ล้านบาทแน่นอน ตนได้นำตนได้นำเรื่องนี้ไปคุยกับญาติพี่น้องและมีการเตือนตนให้ใจเย็นๆ ให้ตั้งสติเสียก่อน หลังจากฟังญาติพี่น้องเตือนตนจึงค่อย ๆ นำรายชื่อในใบแจ้งความมาตรวจสอบ โดยได้แจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด รวมทั้งโทรไปหาตำรวจไซเบอร์ แต่ก็ได้รับการยืนยันจากทุกหน่วยงานยืนยันว่ามันเป็นมิจฉาชีพแน่นอน โดยมิจฉาชีพใช้ชื่อตำรวจจริงยศจริงมาใช้ในการแอบอ้างแต่ผิดที่ตำแหน่ง ซึ่งตนได้ตรวจสอบและติดต่อไปหา พ.ต.อ.จาตุรนต์ จึงพบว่า พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต มีตัวตัวจริงแต่เป็น ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ไม่ใช่เป็นพนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญคดีของ สภ.เพชรบูรณ์ ตามที่มิตฉาชีพกล่าวอ้างและข่มขู่ ตนจึงรอดจากมิจฉาชีพรายนี้โดยที่ไม่หลงกลหลงเชื่อโอนเวิน 2.5 หมื่นบาทให้ไป
 
ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักบัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวภายหลังเข้าแจ้งความว่า ตนได้รับแจ้งจากผู้เสียหายผ่านทางไลน์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า มีคนแอบอ้างเนำชื่อและยศของตนไปใช้แอบอ้างกับผู้เสียหาย โดยเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง แต่ตำแหน่งตำรวจที่ไม่ถูกต้อง โดยผู้เสียหายส่งรูปมาให้ดูทางไลน์ เป็นเอกสารสำเนาประจำวัน ซึ่งลงชื่อตนเป็นพนักงานสอบสวน สภ.เพชรบูรณ์ ซึ่งไม่ถูกต้อง โดยผู้เสียหายรายนี้มีความต้องการจะกู้เงิน จึงหลงเชื่อไปกู้เงินผ่านทางเว็ปไซด์ในโลกออนไลน์ แต่ปรากฏว่าเงินไม่ได้เข้าบัญชีตามที่ยื่นเรื่องไป 

จากนั้นมิจฉาชีพได้มีการข่มขู่ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ ถ้าไม่คโอนเงินไปให้จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน 9 ล้านบาท หลังจากตนทราบเรื่อง จึงได้บอกบอกกล่าวและเตือนสติผู้เสียหายไปว่าอย่าไปกู้เงินนอกระบบใดๆ เพราะมันจะเกิดปัญหาตามมา และที่สำคัญหากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ก็ต้องมีสติ ตั้งสติไว้ก่อน เพราะมิจฉาชีพจะใช้วิธีปลอมเอกสารราชการมาหลอกลวงเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ดังนั้น ถ้าผู้เสียหายรายใดได้รับเอกสารในลักษณะนี้ขอให้ตรวจสอบกับต้นทางของเอกสารให้ดีเสียก่อนว่า บุคคลดังกล่าวที่ถูกอ้างชื่อมีตัวตนในเอกสารจริงหรือไม่ อย่างกรณีนี้ผู้เสียหายไสตัวทัน จึงได้ติดต่อมาหาตนก่อนจนทราบความจริง จึงทำให้รอดพ้นจากการตกเผ็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ซึ่งสำหรับคดีนี้ตนได้แจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้แล้วโดยมีความประสงค์จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ในเบื้องต้นหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ทำการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวไปที่ สภ.เพชรบูรณ์ พบว่าเป็นเอกสารปลอมไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ลัดดา และเอกสารดังกล่าวพบว่ามีจุดที่ไม่ถูกต้องหลายจุด เช่น สภ.เพชรบูรณ์ ซึ่งไม่มีอยู่จริง มีแต่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ที่ส่งเอดสารดังกล่าวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป รวมทั้งลายเซ็นต์ในใบแจ้งความที่มิจฉาชีพนำหบอกลวงผู้เสียหาย ก็ไม่ไม่ตรงกับลายเซ็นต์ของ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ตัวจริงเป็นอย่างมาก - 003