’รองอธ.อัยการสอบสวน บุกสอบลุงเปี๊ยก รอบสอง คดีฆ่าป้ากบ ยันลุงเปี๊ยกยังจำเหตุการณ์ได้ดีก่อนนัดสรุปความเห็นสมควรสั่งฟ้องใครบ้าง ข้อหาไหนบ้าง เดือนหน้า หลังเเจ้งข้อหา ผกก. อรัญประเทศกับพวกรวม 8 คนผิด ม.157,พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
วันที่ 20 มิถุนายน 2567 ที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ ถ.บรมราชชนนี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะ หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พร้อมด้วย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) และคณะ เดินทางมาสอบปากคำ นายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก คงแสนคำ อดีตผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ฆ่านางบัวผัน ตันสุ หรือป้ากบ หญิงสติไม่ดี อายุ 47 ปี ตามความผิดตาม พ.ร บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ เเจ้งว่านายปัญญาให้การรับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือฆ่าป้ากบ เเละกระทำด้วยความมึนเมา ต่อมามีการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนหามาได้จากจุดเกิดเหตุพบว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนางบัวผันเป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน ซึ่งในจำนวนนี้มี 2 คนที่เป็นลูกชายตำรวจใน จ.สระแก้ว ต่อมาดีเอสไอ. ได้รับสำนวนคดีนี้ไว้พิจารณาเป็นคดีพิเศษที่ 9/2567
นายวัชรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ ตนเดินทางมาสอบสวนปากคำลุงเปี๊ยกเพิ่มเติมซึ่งเป็นพยานปากสุดท้าย เนื่องจาก มีประเด็นเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเพิ่มเติมและมีพยานให้การถึงในบางส่วนที่เกี่ยวกับลุงเปี๊ยกเองซึ่งพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนดีเอสไอต้องการสอบสวนค้นหาความจริงให้ละเอียด กระจ่างชัดรอบคอบที่สุด ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะ นัดประชุมเพื่อจะสรุปสำนวน เสนออธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริตภาค2 พิจารณาสั่งคดีต่อไป ซึ่งจากการสอบปากคำลุงเปี๊ยกสามารถจำเหตุการณ์ได้ดีตลอดและยืนยันตามคำให้การเดิมและมีการถามรายละเอียดปากคำของลุงเปี๊ยกในประเด็นที่ยังเกิดความสงสัยอยู่จนได้ความกระจ่างชัด โดยวันนี้นอกจากสอบลุงเปี๊ยกเพิ่มเติมเเล้วยังมีพยาบาลที่รับผิดชอบในการดูแลลุงเปี๊ยกมาร่วมเป็นพยานด้วยสองคน
โดยคณะพนักงานสอบสวนจะนัดประชุมคดีเพื่อสรุปสำนวนทำความเห็นสมควรสั่งฟ้องใครบ้างในเดือน กรกฎาคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ก่อนหน้านี้คณะพนักงานสอบสวนได้เเจ้งข้อกล่าวหา นายตำรวจระดับผกก.สภ.อรัญประเทศ รองผกก.ฝ่ายสืบสวน สารวัตรสืบสวนและรองสารวัตรสืบสวน ซึ่งคือกลุ่มผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้อง และอีกกลุ่มคือกลุ่มตำรวจที่กระทำความผิดโดยตรงในห้องสอบสวนมีตำรวจชั้นประทวน2นาย รวมทั้งหมด 8 นาย ข้อหา ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, ข้อหาตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ เเละความผิดต่อเสรีภาพ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยมิชอบ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี