ทสจ.อุตรดิตถ์-ป่าไม้ ตรวจอายัดไม้มีค่าจำนวน 10 ท่อนในพื้นที่อำเภอน้ำปาด จ่อขยายผลแก๊งมอดไม้
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 นายมรกต อินทรภู่ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งการให้นายสมเกียรติ จินะปัน ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อต.6 (บ้านม่วง) , เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) 2 , เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการต้านการข่าวกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 316 , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอน้ำปาด , เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรน้ำปาด , เจ้าหน้าที่ดำรวจชุดปฏิบัติการสืบสวนปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ , เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าน้ำปาด , เขตห้ามล่าภูสันเขียว ได้ร่วมอายัด รถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70 - 9481 เชียงใหม่ โดยมีนายอานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับ พร้อมไม้ท่อนที่บรรทุกอยู่ในกระบะตรวจนับได้ประมาณ 10 ท่อน (ยังไม่สามารถตรวจนับ วัดขนาดและชนิดไม้ที่แท้จริงได้) สถานที่เกิดเหตุ บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 บริเวณหน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 316 บ้านใหม่ หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านฝ่าย อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ " ป่าน้ำปาด" เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 เวลา 20.00 น.
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าน้ำปาด" และพื้นที่ป่าข้างเคียง ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าและตัดไม้พะยูงและไม้มีค่า เพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พุทธศักราช 2484 , พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ตามคำสั่งอำเภอน้ำปาดที่ 424/2555 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2555 เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวยการส่งเสริมฟื้นฟูการปลูกป่าและป้องกันปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้อำเภอน้ำปาด ตามที่เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อต.6(บ้านม่วง) ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนาม ว่าจะมีการลักลอบเคลื่อนย้ายไม้ผิดกฎหมายผ่านอำเภอน้ำปาด โดยใช้เส้นทาง ฟากท่า - น้ำปาด จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฯ สนธิกำลังตั้งจุดสกัด ที่บริเวณหน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 316
ขณะเดียวกันมีรถยนต์บรรทุกสิบล้อวิ่งมาตามเส้นทางมุ่งหน้าไปทางอำเภอน้ำปาด เมื่อมาถึงจุดสกัดคณะเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่และส่งสัญญาณให้รถหยุด และ ได้เข้าไปแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบ โดยเชิญผู้ควบคุมรถบรรทุกสิบล้อ ทราบชื่อภายหลัง คือนายอานนท์ ซึ่งชาวจ.อุบลราชธานี ลงจากรถเพื่อขอตรวจสอบและสอบถามถึงสิ่งที่บรรทุกมา และนายอานนท์ฯ ได้แจ้งต่อคณะเจ้าหน้าที่ว่าตนได้บรรทุกไม้ท่อนมาจากบ้านม่วงเจ็ดต้นจะนำไปส่งที่ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และได้นำเอกสารหลักฐานที่มาของไม้มาแสดงต่อคณะเจ้าหน้าที่
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จึงได้ให้นายอานนท์เปิดผ้าใบเพื่อขอตรวจสอบกระบะบรรทุก เมื่อนายอานนท์ได้นำผ้าใบออกปรากฏว่าในกระบะบรรทุกพบไม้ท่อน จำนวนหนึ่งยังไม่สามารถตรวจนับได้ ประกอบกับเป็นเวลาค่ำคืนในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการได้มาของไม้ และไม้ท่อนที่อยู่บนรถบรรทุกสิบล้อ ให้ถูกต้องชัดเจนนั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้เพราะอาจจะเกิดข้อผิดพาด เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่าเพื่อความชัดเจนและแน่นอนเห็นควรทำการอายัดไว้เพื่อทำการตรวจสอบซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้นายอานนท์ ทราบและก็ยินยอมให้เจ้าหน้าที่กระทำการอายัดเพื่อทำการตรวจสอบโดยนำรถบรรทุกและไม้ท่อนดังกล่าวไปที่ สภ.น้ำปาต โดยมอบให้นายจีรศักดิ์ พาเหมาะ ตำแหน่งพนักงานพิทักษ์ป่า ) เป็นผู้นำเรื่องราวส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำปาดเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อทำการตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ทางพนักงานเจ้าหน้าที่จะได้ขอผู้เชี่ยวชาญจากกรมป่าไม้เข้ามาตรวจสอบลักษณะของไม้ดังกล่าวว่าเป็นการอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายหรือไม่.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี