‘บิ๊กต่าย’ไม่หวั่น‘บิ๊กโจ๊ก’ร้อง‘ป.ป.ช.’ ไม่มองถูกเช็คบิล ลั่นเกิดมาทุกคนต้องตาย พร้อมรับผลทุกอย่าง ยันไม่มีสัญญาใจเป็น‘ผบ.ตร.’ บอกแม้แต่คิดก็ไม่เคย
24 มิถุนายน 2567 ที่กองทัพอากาศ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จะไปร้อง ป.ป.ช. กรณี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบเซ็นให้ออกจากราชการไว้ก่อน ในช่วงเป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ว่า เพิ่งทราบจากสื่อว่าจะมีการไปฟ้องตนที่ ป.ป.ช. ก็ถือเป็นสิทธิ์ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งขณะนี้ตนปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. แล้ว แต่ในกระบวนการพิจารณาเป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไปใช้สิทธิ์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมแล้ว จากนี้ก็รอผลการพิจารณา
ส่วนที่มองว่าคำสั่งดังกล่าวขัด พ.ร.บ.ตำรวจ ในปัจจุบันนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า มีนักกฎหมายออกมาแสดงความคิดเห็น ตีความมุมมองที่แตกต่างกันไป ตนก็รับฟัง พวกเราคงได้ยินได้ฟังในเรื่องที่ว่าสิ่งนั้นมิชอบ สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง แต่มีท่านใดได้พิจารณาถึงข้อเท็จจริงบ้างหรือไม่ เรากำลังคิดว่าคำสั่งนี้ไม่ถูกต้อง ขัดกฎหมาย ตรงนี้ใช้กฎหมายเก่า แต่อย่าลืมว่า พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เกิดปี 2565 และตนได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้อง การนำกฎหมายปี 65 มาใช้ ถือว่าเป็นฐาน แต่ในข้อเท็จจริงมีใครหยิบตรงนี้ขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ในเรื่องพฤติกรรมความร้ายแรงแห่งคดี ประกอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
เมื่อถามว่าสำนักงานกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นมาแล้วว่าการออกคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนไม่ถูกต้อง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็นเรื่องกฤษฎีกา ซึ่งกฤษฎีกาเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรี ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ขึ้นตรงต่อนายกฯ เช่นกัน ความเห็นใดที่เป็นข้อผูกพันทางกฎหมายทุกหน่วยย่อมถือปฏิบัติ แต่ข้อสังเกตเราก็รับไว้ ก็ต้องมาดูว่าสามารถทำได้หรือไม่
เมื่อถามย้ำว่าในช่วงที่เป็นรักษาราชการแทน ผบ.ตร. เชื่อว่าคำสั่งที่เซ็นออกไปถูกต้อง ครบถ้วนแล้วใช่หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า “ครับ ถือเป็นช่วงจังหวะที่ผมมารักษาการ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาเป็นช่วงที่ผมอยู่ในจุดนั้นพอดี เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติใช้ดุลพินิจพิจารณาจากข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมาย ประกอบระเบียบ คำสั่ง กฎ ก.ตร. ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบแล้ว ผมจึงบอกว่าขอให้ดูข้อเท็จจริง อย่ามุมมองเพียงแค่ว่าอันนี้ผิดหรือไม่ผิด และเป็นสิทธิ์ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่จะบอกว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องพิจารณาจากข้อมูลหลักฐาน ซึ่งจะพิจารณาได้ว่าคำสั่งนี้ถูกต้องหรือไม่ อยู่ที่องค์กรอิสระและคณะกรรมการต่างๆที่เกี่ยวข้อง”
เมื่อถามว่ากรณีนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ระบุให้มาปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ตัวท่านกลับถูกฟ้อง คิดว่าสถานการณ์ภายในของตำรวจจะสงบหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการ มีหน้าที่รับคำสั่งมาทำงาน ก็ทำงานไป และทุกวันนี้ก็ทำงานอยู่ตอนนี้เป็น รอง ผบ.ตร. รับหน้าที่ดูแลป้องกันและปราบปราม ตนเห็นว่าตำรวจร่วมมือร่วมแรงกันทำงาน ส่วนประเด็นอื่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ย่อมมีการวิพากษ์วิจารณ์ ถือเป็นเรื่องปกติ ตนคิดว่าความขัดแย้งคณะกรรมการชุดของนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ชัดเจน โดยนายวิษณุ ออกมาแถลงว่ามีความขัดแย้งภายในตำรวจจริง
“และเมื่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับมาเป็น ผบ.ตร. ก็ไม่ได้ปรากฏเรื่องที่ต้องขัดแย้ง ถึงแม้ว่าจะมี รอง ผบ.ตร. ท่านใดกลับมาอีก ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้เกิดความชัดเจนในเรื่องของการกล่าวหา และหลักฐานต่างๆให้เคลียร์ ใครกลับมา ผมก็พร้อมจะทำงาน เป็น รองผบ.ตร. ในหน้าที่ที่รับมอบหมาย ส่วนใครจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ก็เป็นสิทธิ์แก้ต่างไป” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
เมื่อถามว่าที่ระบุทำตามหน้าที่ในช่วงรักษาการ แต่ขณะนี้ท่านกำลังจะโดนเช็คบิล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนไม่ได้เคยคิดว่าถูกเช็คบิล บอกแล้วว่าเป็นสิทธิ์ของแต่ละท่านที่จะดำเนินการทั้งทางกฎหมายและวินัยกับตนได้อยู่แล้ว แต่ตนได้ถือปฏิบัติอยู่บนความสุจริตเป็นที่ตั้ง และตนทำเพื่อองค์กร ซึ่งต้องดูเรื่องกฎหมาย ข้อเท็จจริง ระเบียบคำสั่ง มาประกอบแล้ว ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นกับตนก็พร้อมรับ
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะได้เป็น ผบ. ตร. คนต่อไป พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หัวเราะ พร้อมระบุว่า “อย่าใช้คำว่ามั่นใจ แม้แต่คิดยังไม่เคย และไม่มีสัญญาใจอะไร และไม่เคยคิดเรื่องนี้ คิดอย่างเดียวว่าได้รับหน้าที่อะไรก็ทำอย่างนั้น”
เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าเหมือนท่านตายเดี่ยวในรอบนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หัวเราะ พร้อมทั้งระบุว่า “ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย ไม่มีใครหลุดพ้นความตาย เป็นธรรมะอย่างหนึ่ง ดังนั้นเมื่อความตายมาเยือน เราต้องพร้อมที่จะรับความตาย แต่เราอยู่ในพื้นฐานความสุจริตใจ และความโปร่งใส ผมปฏิบัติตามหลักนิติธรรมเพื่อองค์กร ดังนั้นก็พร้อมที่จะรับทุกสิ่งทุกอย่าง”
เมื่อถามว่าในวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่จะมีการประชุม ก.ตร. โดยมีนายกฯ เป็นประธาน กังวลอะไรหรือไม่ เพราะจะมีการนำประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ตนทราบว่ามีประชุม ก.ตร. และก็ทราบวาระการประชุมแล้ว แต่ขออนุญาตไม่พูดถึง เพราะเป็นเรื่องของการประชุม ส่วนที่ประชุมจะอภิปรายหรือมีความเห็นอย่างไรก็สุดแท้แต่ ก.ตร. แต่ละท่านจะพิจารณา
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี