กองกำลังผาเมืองแถลงโชว์ผลงานรอบ 9 เดือนสกัดกั้นยาเสพติด 318 ครั้ง ตรวจยึดยาบ้า 150 กว่าล้านเม็ด ล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้าได้อีก 1.6 ล้านเม็ด
วันที่ 25 มิ.ย.67 ที่ห้องประชุมทองจัตุ บก.กองกำลังผาเมือง พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการ กองกำลังผาเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, พล.ต.นิรันดร์ชัย ทิพย์กาญจนกุล รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ, พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมกันแถลงผลงานการสกัดกั้นป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมืองในห้วงเวลา 9 เดือน และทหารร้อย.ม.4 ฉก.ไชยานุภาพ กกล.ผาเมือง ตามรวบกลุ่มขบวนการลอบขนยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 1 รายนำตัวขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
ตามนโยบายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก และ พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพภาคที่ 3 ได้มอบนโยบาย สั่งการให้หน่วยกำลังป้องกันชายแดน สกัดกั้นยาเสพติดให้ได้ ตั้งแต่พื้นที่แนวชายแดนนั้น หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) โดยกองกำลังผาเมือง พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วยในความรับผิดชอบของกองกำลังผาเมือง ทำการเปิดยุทธการในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย
ในห้วงตั้งแต่ตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 318 ครั้งจับกุมผู้ต้องหาได้ 327 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 150.4 ล้านเม็ด, เฮโรอีน 256.7 กิโลกรัม, ไอซ์ 1,248.3 กิโลกรัม, ฝิ่น 179.5 กิโลกรัม และคีตามีน 29.2 กิโลกรัม กลุ่มขบวนการเสียชีวิต 29 ศพ จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่จำนวน 38 ครั้ง ซึ่งหากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 24,107 ล้านบาท (24,107,483,200 บาท)
นอกจากนี้ในห้วงคืนวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ร้อย.ม.4 ฉก.ไชยานุภาพ ได้รับการแจ้งเตือนว่ามีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่ หน่วยจึงได้จัดกำลังพล 2 ชป.ทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายยาเสพติด บริเวณบ้านป่าคา ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เวลา 05.30 น. ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย 5-6 คนแบกเป้มาตามเส้นทางและกำลังขนถ่ายสัมภาระขึ้นรถยนต์กระบะพร้อมรถจักรยานยนต์เป็นรถนำทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ขับรถหลบหนี
ทางหน่วยจึงได้ทำการตั้งจุดสกัด บริเวณเส้นทางหน้าวัดห้วยจะนุ ต.ม่อนปิ่น ตรวจพบรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ดังกล่าว ขับเข้ามายังจุดสกัดและได้ขับรถแหกด่านหลบหนีเข้าไปในวัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการไล่ติดตามผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย พร้อมรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน และตรวจยึดรถยนต์กระบะจำนวน 1 คัน พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ภายในกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายจำนวน 16 เป้ๆ ละ 100,000 เม็ด รวมของกลางทั้งสิ้น จำนวน 1,600,000 เม็ด
ต่อมาในช่วงเช้าวันที่ 25 มิถุนายน 2567 พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้ทำการตรวจสอบของกลาง และทำการแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ทั้งสิ้นจำนวน 1,600,000 เม็ด ที่กองบัญชาการกองกำลังผาเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ หากยาเสพติดจำนวนนี้หลุดเข้าไปในพื้นที่ตอนในของประเทศ จะมีมูลค่าสูงถึง 240,000,000 บาท
จากเหตุการณ์ดังกล่าว พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ ยังคงเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด อย่างต่อเนื่องต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี