เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีนักเรียนชาย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนดัง ในจังหวัดนครราชสีมา ตกจากอาคารเรียน 8 ชั้น เสียชีวิต เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า จากการรายงานในเบื้องต้นพบว่าเหตุเกิดในเวลากลางคืนของวันอาทิตย์ที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา และในช่วงเช้าของวันที่ 24 มิ.ย. ภารโรงของโรงเรียนจึงมาพบรถมอร์เตอร์ไซตต์ของเด็กจอดอยู่ และพบศพเด็กที่ตกลงมา รปภ.จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบ และล่าสุดได้มีการตรวจสอบว่านักเรียนที่เสียชีวิตเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่เจตนาของเด็กที่เดินขึ้นไปชั้น 8 ของอาคารเรียนแล้วหล่นลงมาก็น่าจะจงใจหรือเจตนาที่จะโดด เพราะไม่มีคนอื่น ถ้าไปกันหลายคนก็อาจคิดได้ว่าเพื่อนผลักหรือเพื่อนกลั่นแกล้งแล้วตลลงมา แต่นี่เด็กเดินขึ้นไปชั้น 8 คนเดียว ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วโรงเรียนนี้ก็เคยมีเด็ก ม.3 ตกลงมาจากชั้น 6 เสียชีวิต
"กรณีนี้สันนิษฐานว่าเด็กอาจจะเครียดมาจากครอบครัว หรือน้อยใจผู้ปกครอง เพราะเท่าที่เช็คการเรียนกับทางโรงเรียนแช้ว เด็กไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเรียน และไม่ได้มีปัฐหาเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าใดๆ แต่อาจจะมาใช้สถานที่ในการตัดสินใจ เพราะเด็กมาเล่นบาสฯแล้วติดฝนอยู่ แล้วเด็กก็เดินขึ้นไปชั้น 8 จากที่เราได้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด เพราะโรงเรียนไม่มีครูเวรแล้ว ส่วน รปภ.ก็อยู่หน้าโรงเรียนเพราะเป็นวันหยุด" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวต่อว่า อยากเน้นย้ำกับผู้ปกครองว่าต้องช่วยครูและโรงเรียน ในการดูและสุขภาพจิตของนักเรียน ถ้าพบว่าบุตรหลานมีปัญหาผิดปกติอะไรก็ให้บอกครูได้รับทราบด้วย เพราะนักเรียน 1 ห้องมี 40 คน บางครั้งครูก็อาจจะรู้จักเด็กได้ไม่ครบทุกคน แต่ สพฐ.ก็มีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ครูต้องรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลอยู่แล้ว แต่บางทีเด็กก็ไม่ออกอาการ ดังนั้น ผู้ปกครองจะต้องให้ความร่วมมือกับครู โดยการมาบอกว่าลูกคุณมีโรคอะไร หรือมีพฤติกรรมอย่างไรเพื่อให้ครูช่วยสังเหตุอาการ ซึ่งถ้าผู้ปกครองและครูร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดปัญหาเหล่านี้ก็จะได้รับการป้องกันและแก้ไขได้ทันท่วงที ก็อยากให้ครอบครัว หรือสังคมช่วยโรงเรียนอีกทางหนึ่ง ปัญเหล่านี้ก็จะลดลง ส่วนการมีนักจิตวิทยาเข้าไปในโรงเรียนก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่ผมมองว่าสถาบันครอบครัวสำคัญมาก เพราะอยู่กับเด็กมากกว่า แต่บางครอบครัวที่เด็กขาดความอบอุ่นพ่อแม่ไปทำงานอยู่ต่างที่ ก็อาจจะเจอปัญหาได้ แต่ถ้าครอบครัวเข้มแข็งผมเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้ก็จะหายไป ดังนั้น ผู้ปกครองและครูต้องจับมือไว้แล้วไปด้วยกัน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี