ปิดคดีทุจริต"แก๊สปิคนิค"ศาลฎีกาพิพากษาสั่งจำคุก 12 ปี งดโทษปรับ อดีตผู้บริหารทุจริตโกงหุ้น ส่วนบ.สีลมเหลือปรับ 1 ล้าน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 มิถุนายน 67 ที่ห้องพิจารณา 712 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีแก๊สปิคนิคหมายเลขดำ อ1396/2557 หมายเลขแดง อ 1594/2562 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสุเทพ อัคควุฒิไกร ,นายภาณุวรรณ เลิศวิเศษ ,บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด,นายสนธยา น้อยเจริญ (หลบหนี),นายธรรมนูญ ทองลือ ,หม่อมหลวงชัยภัทร ชยางกุร ,บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด และนางวันดี โตเจริญ เป็นจำเลยที่ 1-8 กับนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน (หลบหนี ศาลจำหน่ายคดี ออกจากสารบบ ปรับนายประกัน)ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยคดีนี้ เมื่อปี 2557 พนักงานอัยการโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 8 กับนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน และพวกอีกหลายคน ว่า เมื่อระหว่างวันที่ 30 พฤษจิกายน 2549 ถึงวันที่ 25 ธันวาคม 2550 พวกจำเลยฯ โดยนายสุเทพ จำเลยที่ 1 และนายภาณุวรรณ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานและได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น หรือ ปิคนิค หรือ PICNICได้กระทำผิดต่อหน้าที่โดยทุจริตเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของบริษัท โดยร่วมกันทุจริตยักยอกหุ้นบริษัท เวิลด์แก๊ส จำนวน 7.99 ล้านหุ้น มูลค่าตามบัญชีงบการเงิน 711 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยให้จำเลยที่ 3 บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัดซึ่งเป็นนิติบุคคลมีจำเลยที่ 4 นายสนธยา เป็นผู้แทนนิติบุคคล ซื้อหนี้ของ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น แล้วโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวให้แก่จำเลยที่ 7 บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล มีจำเลยที่ 8 นางวันดี โตเจริญ เป็นกรรมการผู้จัดการผู้มีอำนาจกระทำการแทน แล้วเบียดบังทรัพย์สินนั้นเป็นของตนเอง โดยทุจริต
พวกจำเลยให้การปฏิเสธ
คดีนี้ศาลชั้นต้น พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้า เห็นว่า พวกจำเลย ไม่มีความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด
อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ต่อมาปี 2564 ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 นายสุเทพ และจำเลยที่ 2 นายภาณุวรรณ มีความผิดจริง พิพากษาแก้ ให้จำคุก จำเลยทั้งสองคนละ 12 ปี ปรับคนละ 1,522,000,000 บาท ,ปรับจำเลยที่ 3 บริษัท สีลม แอดไวซอรี่ เซอร์วิส จำกัด นิติบุคคลจำนวน 1,422,000,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 4 นายสนธยา รวม 12 ปี ปรับ 1,522,000,000 บาท และลงโทษปรับจำเลยที่ 7 บริษัท แอสเซ็ท มิลเลี่ยน จำกัด 1,522,000,000 บาท ยกฟ้องจำเลยที่ 8
ส่วนนายธรรมนูญ จำเลยที่ 5 กับนายสุริยา ที่หลบหนีให้ออกหมายจับปรับนายประกัน
ต่อมาจำเลยที่1,3 และ 4 ยื่นฎีกา จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกา ถูกคุมขังในเรือนจำ ส่วนจำเลยอื่นอัยการโจทก์ ไม่ฎีกา คงฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 1,3 และ 4 เท่านั้น
โดยวันนี้จำเลยที่ 1 กับ 3 มาศาล ส่วนจำเลยที่ 4 นายสนธยา ไม่มาศาล
ศาลฎีกาพิเคราะห์ ข้อเท็จจริงแล้วรับฟังได้ว่า จำเลย 1 กับที่ 2 ครอบครองหุ้นตามฟ้องแล้วอาศัยโอกาสเป็นกรรมบริหาร บ.ปิคนิค กระทำผิดหน้าที่เบียดบังหุ้นไปจริง โดยกระทำร่วมกันเป็นเหตุลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 2 ไม่ฎีกา ก็มีผลถึงจำเลยที่ 2 ด้วย
พิพากษาคงให้พิพากษาจำคุก จำเลยที่ 1-2 คนละ 12 ปี และพิพากษาแก้ไม่มีโทษปรับ
ส่วนจำเลยที่ 3 บ.สีลมฯศาลฎีกาพิพากษาแก้ปรับ บทลงโทษ เหลือปรับ 1 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 4 นายสนธยา คงจำคุก 12 ปี ทราบนัดโดยชอบแล้ว แต่ไม่มาศาลตามนัด ให้ออกหมายจับ ส่วนจำเลยที่ 7 แม้ไม่ยื่นฎีกาแต่เป็นเหตุลักษณะคดีมีผลไปถึงด้วย จึงให้ปรับ 2 ล้านบาท
หลังฟังคำพิพากษาศาลฎีกานายสุเทพ จำเลยที่ 1 ที่ได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกา พอรู้ว่าจะต้องเข้าเรือนจำก็ฝากทรัพย์สิน อาทิ สร้อยคอ นาฬิกา ฝากญาติ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปรับโทษตามคำพิพากษาศาลฎีกา ในเรือนจำทันที.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี