"อธิบดีกรมการข้าว"เผยไทม์ไลน์ดำเนินการโครงการ"ปุ๋ยคนละครึ่ง" ที่ครม.เห็นชอบแล้ว มีเป้าหมายช่วยชาวนา 4.68 ล้านครัวเรือน ลดต้นทุนการผลิตข้าว 10% เผยหลังจากนี้จะรับสมัครผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์เพื่อเข้าร่วมโครงการ
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 267 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ประชุม ครม.เห็นชอบโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (ปุ๋ยคนละครึ่ง) “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ประจำฤดูกาลผลิตปี 67/68 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมการข้าวเสนอแล้ว กรอบวงเงินงบประมาณโครงการ 29,980.1695 ล้านบาท (เบิกจ่ายเท่าที่จ่ายจริง) มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตข้าวให้ชาวนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2567 - 31 กรกฎาคม 2568
สำหรับโครงการปุ๋ยคนละครึ่งจะสนับสนุนค่าปุ๋ยส่วนหนึ่งให้เกษตรกร โดยรัฐบาลช่วยครึ่งหนึ่งและชาวนาจ่ายอีกครึ่งหนึ่ง ในการซื้อปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และชีวภัณฑ์ในราคาไม่เกินไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกิน 10,000 บาทต่อครัวเรือน) เป้าหมายเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 4.68 ล้านครัวเรือน ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถสั่งซื้อปุ๋ยและชีวภัณฑ์ได้จากแอปพลิเคชันที่กรมการข้าวและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พัฒนาร่วมกัน
สำหรับขั้นตอนจากนี้กรมการข้าวจะเชิญชวนผู้ประกอบกิจการผู้ค้าปุ๋ยมาเข้าร่วมโครงการ โดยต้องเป็นการจำหน่ายในราคาปุ๋ยตามสูตรที่กำหนดต่ำกว่าท้องตลาดและจำหน่ายราคาเดียวกันหมด เพื่อแก้ปัญหาชาวนาซื้อปุ๋ยแพง โดยปุ๋ยที่เข้าร่วมโครงการต้องเป็นปุ๋ยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือมีหนังสือสำคัญรับแจ้งถูกต้องตามพระราชบัญญัติปุ๋ย ส่วนชีวภัณฑ์ต้องได้รับการขึ้นทะเบียนถูกต้องตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการสามารถเลือกรับการสนับสนุนปุ๋ยสำหรับนาข้าวที่ขึ้นทะเบียน เบื้องต้น 13 รายการ ได้แก่ (1) ปุ๋ยสูตร 25-7-14 (2) ปุ๋ยสูตร 20-8-20 (3) ปุ๋ยสูตร 20-10-12 (4) ปุ๋ยสูตร 30-3-3 (5) ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 (6) ปุ๋ยสูตร 18-12-6 (7) ปุ๋ยสูตร 16-8-8 (8) ปุ๋ยสูตร 16-12-8 (9) ปุ๋ยสูตร 16-16-8 (10) ปุ๋ยสูตร 16-20-0 (11) ปุ๋ยสูตร 20-20-0 (12) ปุ๋ยสูตร 15-15-15 (13) ปุ๋ยสูตร 16-16-16 (14) ปุ๋ยสูตร 13-13-24 (15) ปุ๋ยอินทรีย์ที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรม หรือ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ (16) ชีวภัณฑ์ที่ได้รับใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย
ทั้งนีั กรมส่งเสริมการเกษตรจะเร่งรัดการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกษตรกรให้เป็นไปตามคู่มือการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์จะรับสมัครสหกรณ์การเกษตรเป็นจุดกระจายปุ๋ยและชีวภัณฑ์
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินโครงการให้เกิดความโปร่งใส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมออกคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาและคณะกรรมการโครงการสนับสนุนปุ๋ยลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อมากำกับดูแลและตรวจสอบ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชาวนาส่วนการจัดหาปุ๋ยนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์แจ้งรายชื่อผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้แก่สหกรณ์การเกษตรคัดเลือก โดยการกำหนดราคาปุ๋ยเป็นตามประกาศของกรมการข้าว ส่วนการส่งมอบปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้สหกรณ์การเกษตร ผู้ประกอบกิจการปุ๋ยและชีวภัณฑ์ต้องส่งมอบ พร้อมรายงานผลการวิเคราะห์ปุ๋ยและชีวภัณฑ์
โดยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสามารถขอใช้สิทธิ์ตามระบบข้อมูลโครงการปุ๋ยและชีวภัณฑ์คนละครึ่ง ผ่านแอปพลเคชันของ ธ.ก.ส. ส่วนการจ่ายเงินสมทบค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เกษตรกรต้องชำระเงินสมทบค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ตามที่แจ้งความประสงค์ ขณะที่ ธ.ก.ส.โอนจ่ายเงินค่าปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้ตามรายงานที่สหกรณ์การเกษตรจ่ายปุ๋ยและชีวภัณฑ์ให้เกษตรกร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มั่นใจว่า โครงการนี้จะทำให้กษตรกรผู้ปลูกข้าวประมาณ 4.68 ล้านครัวเรือน สามารถเข้าถึงปุ๋ยคุณภาพในราคาถูก สามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาได้ 10% ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 10% มีอำนาจในการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเกษตรกรและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งยังได้ปุ๋ยคุณภาพดีที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวและยกระดับคุณภาพข้าวให้สนองความต้องการของตลาด
ในภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ การใช้จ่ายในการซื้อปัจจัยการผลิตทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเกิดการหมุนเวียน ที่สำคัญสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐในการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและ พัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว (โครงการไร่ละ 1,000 บาท) ซึ่งใช้งบประมาณปีละ 54,300 ล้านบาท ดังนั้น จึงประหยัดงบประมาณได้ถึงปีละ 24,320 ล้านบาท
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี