ชาวบ้านเฮ!ประธานสภาเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ ยุติเรื่องเหมืองหินแกรนิตหาข้อเท็จจริงจากชาวบ้านก่อนเข้าสภาพิจารณาอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาที่องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลักอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกิตติ นามบุญลือ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตัวแทนชาวบ้านพร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 6 บ้านทุ่งเคล็ดชาวบ้านหมู่ 7 หนองไม้แก่นตำบลเกาะหลัก พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 200 คน ร่วมชุมนุมหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก เพื่อคัดค้านการทำเหมืองหินแกรนิตของบริษัทอธิภ้ทร จำกัด ในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่นโดยมีการชูป้ายข้อความพวกเราไม่เอาเหมือนหินแกรนิตอธิภัทรจำกัด หน้าองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลักสืบเนื่องมาจากมีการเสนอคณะกรรมการสภาท้องถิ่นขั้นตอนพิจารณา เรื่องคำขอประทานบัตรเลขที่ 1/2566 ของบริษัทเมืองหินอธิพถัทร จำกัด เข้าสภาเพื่อพิจารณา โดยทางสภาได้ให้ชาวบ้านชาวบ้านหมู่ 6 ทุ่งเคล็ดพร้อมด้วยชาวบ้านหมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่นโดยทาง อบต. ให้เข้าร่วมประชุมได้หมู่ละ 5 คน พร้อมด้วยอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ป่าไม้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าร่วมฟังการพิจารณาในครั้งนี้โดยได้เก็บมือถือเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดก่อนเข้าห้องประชุม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ คอยดูแลความสงบเรียบร้อยภายในองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลักหลังการประชุมพิจารณาว่า 2 ชั่วโมง ก่อนได้ข้อยุติ
นายกิตติ นามบุญลือ ตัวแทนชาวบ้านหมู่ 6 ทุ่งเคล็คและหมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่นได้กล่าวว่า ในที่ประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก ในครั้งนี้โดยมีนายเกรียงไกร เรืองทิพย์ เป็นประภาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก เมื่อมีการสอบถามชี้แจงของตัวแทนชาวบ้านทั้ง 2 หมู่และเจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ข้อสรุปคือให้หยุดยุติเรื่องนี้เอาไว้ก่อนที่ อบต.และให้ชาวบ้านทำหนังสือในการคัดค้านและความเดือดร้อนผลกระทบอะไรบ้างและต้องออกมาตรวจสอบทั้งหมดทุกเรืองแล้วนำยื่นเรื่องกับประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก โดยมีนายนราวิชญ์ กิตติพงศ์ธนกิจ หัวหน้าสาขาพรรคก้าวไกล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ประสานด้านกรรมาธิการของเรื่องนี้จะนำทีมลงมาสำรวจหาข้อเท็จจริงร่วมกับชาวบ้านเพื่อช่วยเหลือความเดือดร้อนในเรื่องนี้
การรวมตัวคัดค้านครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการศึกษาโดยภาพรวม ทราบว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างภายในประเทศนั้น ทรัพยากรแร่หินเพื่อการผลิตอุตสาหกรรมภายในประเทศ และเพื่อการส่งออกยังคงเพียงพออีกหลายร้อยปี จึงไม่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการเปิดเหมืองแร่แห่งใหม่เพื่อนำมาแปรรูป และจากการอนุญาตให้บริษัทดังกล่าว เข้าสำรวจแร่หินในพื้นที่กว่า 733 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา โดยมีอธิบดีกรมอุตสาหกรรมอนุญาตให้เข้าสำรวจเมื่อปี 2564 นั้น มีเงื่อนไขข้อตกลง หลังเข้าแผ้วถางผืนป่าบางส่วน เพื่อเจาะสำรวจหาแร่บางชนิดในพื้นที่บ้านหนองไม้แก่นนั้น เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะต้องทำการฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับสภาพเดิม โดยจะไม่มีการรุกล้ำลำห้วย ทางสาธารณะ และพื้นที่ทำกินทางการเกษตรของชาวบ้าน แต่กลับไม่มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว และไม่มีการแจ้งประสงค์เพื่อประโยชน์ใด ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นการเจาะสำรวจค่าแร่ตามปกติ จึงไม่ติดใจ
หากการกระทำเช่นนี้ มองว่าบริษัทไม่เห็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก การทำประชาพิจารณ์ทั้งสองครั้ง เมื่อวันที่ 24 และ 25 เมษายนที่ผ่านมา มีการคัดค้านและลงรายชื่ออย่างชัดเจน โดยมีผู้นำท้องที่ในพื้นที่และชาวบ้านนอกพื้นที่ไม่กี่ราย ที่เข้ามาลงชื่อเห็นด้วยกับการทำเหมืองหิน จากการที่ชาวบ้านส่วนใหญ่คัดค้านการทำเหมืองหินแกรนิตของบริษัทดังกล่าว โดยต่างชูป้ายข้อความพวกเราไม่เอาเหมืองหินและลงรายชื่อคัดค้านส่วนใหญ่ไม่เอา ก็น่าจะยุติการทำได้แล้ว ไม่เห็นหัวประชาชนในพื้นที่ หรือแม้จะกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้บริโภคก็ตาม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี