รวบ 25 แรงงานเถื่อนกลางป่าชายน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ หวังหนีไปทำงานจังหวัดชั้นใน ระหว่ารอรถมารับโดนรวบเสียก่อน

27 มิถุนายน 2567 เมื่อเวลา 02.00 น. พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายสุริยศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ,พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี  พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ก.จว.กาญจนบุรี

พ.อ.สุรเดช  เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 พ.ต.อ.กรณ์ สมคะเณย์ ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.สุพงศ์สิทธ์ แจ้งพันธ์ รอง ผกก.ตชด.13  พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.ส.ภ.สังขละบุรี ,พ.ต.ท. ตฤณธวัช ปัญญาธร รอง ผกก.ตม.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.อรรถพล แพสะอาด ผบ.ร้อย ตชด.134 พ.ต.ต.ประหยัด ราษี สวป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ต.เมธี ธีระสวัสดิ์ สว.ตม.จว.กาญจนบุรี และนายสุรวุฒิ สุขการี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.สังขละบุรี

ร่วมประชุมวางแผนจับกุมกลุ่มแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมาก หลบซ่อนอยู่ที่บริเวณชายป่าท้องที่หมู่ 1 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ข้างต้นสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจสามแยกปรังเผล สนธิกำลังเดินทางไปตรวจสอบ

ไปถึงพบกลุ่มแรงงานเป็นจำนวนมากซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บ้านท่าดินแดง หมู่ 1 ต.ปรังเผล เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อมพร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม พบมีแรงงานทั้งหมด จำนวน 25 ราย เป็นชาย 10 ราย หญิง 15 ราย แต่เนื่องจากทั้งหมดไม่สามารถพูดไทยได้เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.สังขละบุรี

จากการสอบปากคำผ่านล่าม พบว่าทั้งหมดไม่มีเอกสารการอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยทั้งหมดต้องการเดินทางไปทำงานในจังหวัดชั้นในของไทย เช่น สมุทรสงคราม สมุทรสาคร รวมทั้ง นครปฐม และกทม. ระหว่างรอคนมารับก็มาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน หลังจากผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตังส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีในข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”ก่อนที่จะส่งตัวให้ ตม.ผลักดับกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป