‘บิ๊กโจ๊ก’ลั่นเตรียมฟ้อง‘นายกรัฐมนตรี-12 ก.ตร.’สัปดาห์หน้า หลังมีมติที่เห็นชอบคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซัดคำพูด‘นายกฯ’ให้ความเป็นธรรม ไม่จริงใจ-แค่วาทกรรม
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 5/2567 โดยวาระที่น่าสนใจ คือ กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 177/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.67 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการตำรวจ และกรณี ตร. มีคำสั่งที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.67 ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยที่ประชุมมีมติเอกฉันท์เห็นชอบกับผลสรุปการสอบสวนของคณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย (อนุ ก.ตร.) เรื่องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมายนั้น
ล่าสุดวันนี้ (27 มิ.ย.67) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าตนจะดำเนินการยื่นฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานก.ตร. และคณะกรรมการ ก.ตร. รวม 12 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมประชุมและรับรองวาระการประชุมเกี่ยวกับคำสั่งให้ตนออกจากราชการไว้ก่อน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า มติดังกล่าวไม่ผิดจากที่ตนคาดการณ์ไว้ เพราะทุกคนต้องเข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้เป็นตำรวจใช่หรือไม่ พร้อมย้ำคำพูดนายกรัฐมนตรีที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าจะให้ความเป็นธรรมกับตัวเองนั้น เป็นเพียงวาทกรรม ที่ดูดีสวยหรู แต่ไม่จริงใจ ทั้งที่ตัวนายกรัฐมนตรีเองได้ปรึกษาหารือกับกฤษฎีกาจนทราบแล้วว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่กลับไม่แก้ไข ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว อีกทั้งยังเข้าประชุมรับรองมติ ก.ตร.เมื่อวานที่ผ่านมาอีก ซึ่งส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับนายเศรษฐา แต่จำเป็นต้องปกป้องสิทธิ์ ในการยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีกับ ก.ตร. ชุดดังกล่าว
“อยากให้สังคมเห็นใจผมบ้าง เพราะความเสียหายในกรณีนี้ เกิดขึ้นกับผมเพียงคนเดียว และการฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ก็เพราะผมไม่ได้รับความเป็นธรรม ยอมรับ ณ เวลานี้ ความหวังที่จะได้รับความเป็นธรรมอยู่ที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 1 เดือน หรืออาจนานไปถึง 180 วัน ตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า ในพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 13.30 น. ตนจะเดินทางไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฟ้องดำเนินคดีกับนายพลตำรวจ ต. 1 นาย ฐานเป็นกูรู ผู้รู้ดีรู้มากแต่ไม่รู้จริง ทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียง คำสั่งดังกล่าวไม่เกินความคาดหมายของตน ซึ่งขณะนี้ตนยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจนทั้งหมดในที่ประชุมว่า ก.ตร. มีความเห็นชอบในประเด็นใด แต่เมื่อมีคำสั่งเห็นสั่งเห็นชอบ ตรงนี้ต้องถามกลับว่าเห็นชอบในประเด็นใด เห็นชอบว่าคำสั่งของอดีตรักษาการ ผบ.ตร. ถูกต้องแล้ว ใช่หรือไม่ และขั้นตอนถูกต้องด้วยใช่หรือไม่
“ที่ผ่านมาผมพยายามต่อสู้มาโดยตลอด เพราะกฎหมายตามพ.ร.บ.ตำรวจฉบับใหม่ 2565 ถูกนำมาบังคับใช้แล้ว ซึ่งกฎหมายระบุไว้อย่างชัดเจน ว่าการจะให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้นจะต้องผ่านมติ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี