ตร.ทลายแก๊งตุ๋น
รวบ30ผู้ต้องหา
ลวงสูงวัยลงทุน
สูญกว่า200ล้าน
ตร.ไซเบอร์บุกค้น 6 จุด ใน กทม.ทลายเครือข่ายแก๊งตุ๋นผู้สูงวัยเกษียณหลอกลงทุน สูญกว่า 200 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหา 30 คน ทั้ง แอดมิน-ผู้จัดหาบัญชีม้า ซัดทอด นายทุนจีน อยู่เบื้องหลัง สั่งเร่งสอบขยายผลจับกุมต่อไป
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 แถลงจับกุมเครือข่ายหลอกลวงวัยเกษียณลงทุน อ้างเป็นบุคคลมีชื่อเสียง โดยบุกค้น 6 จุดใน กทม.จับกุมผู้ต้องหา 30 ราย พร้อมของกลาง โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บก.สอท.3 ได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุหลายราย ว่าถูกคนร้ายหลอกให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น “PENFOLD” และแอปฯ “IBTM” จากการตรวจสอบข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีคดีลักษณะดังกล่าว ประมาณ 40 เคส มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท
ผบช.สอท.กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์คนร้าย มักสร้างเฟซบุ๊กปลอม แอบอ้างเป็นผู้มีชื่อเสียงด้านการลงทุน หรือใช้วิธีการแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มเฟซบุ๊ก จริง ที่เกี่ยวกับการลงทุน จากนั้นจะติดต่อเหยื่อเพื่อแนะนำหรือชักชวนให้ลงทุนกับคนร้าย หากเหยื่อหลงเชื่อ คนร้ายจะให้แอดไลน์ส่วนตัว เพื่อสอนวิธีการในการเทรดหุ้น โดยสร้างตัวตนในไลน์ว่าเป็นผู้ช่วยด้านการลงทุน จากนั้นก็จะให้เหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับการลงทุน ซึ่งคนร้ายได้สร้างปลอมขึ้นมา แล้วหลอกให้โอนเงินมาลงทุนเป็นระยะ หากเหยื่อต้องการถอนเงิน คนร้ายจะอ้างเหตุผลต่างๆ เพื่อให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มก่อนถึงจะถอนเงินได้ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้
ด้าน พล.ต.ต.สถิตย์ กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ บก.สอท.1 และ บก.สอท.3 ได้ สืบสวนเส้นทางการเงิน พร้อมกับเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การขออำนาจศาลออกหมายจับกลุ่มคนร้ายไว้ 66 หมายจับ และได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 6 จุด ใน กทม.จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 30 ราย ทั้งกลุ่มแอดมิน ผู้จัดหาบัญชีม้า และบัญชีม้า
ทั้งนี้ สำหรับผู้ต้องหารายสำคัญคือ น.ส.ปานชีวัน (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี และ น.ส.ชานิภา (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดกับชาวจีนระดับหัวหน้าองค์กร โดยทั้งสอง ทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและจัดหาคนเข้ามาทำงาน ด้วยวิธีการประกาศรับสมัครงานผ่านทางเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดคอมพิวเตอร์ 14 เครื่อง โทรศัพท์ 6 เครื่อง เอกสารการรับสมัครงาน บัญชีธนาคาร เอกสารสคริปต์บทสนทนาของคนร้ายที่เตรียมไว้สำหรับหลอกเหยื่อ และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , เป็นอั้งยี่ฯ , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน
ขณะที่ พล.ต.ต.ชัชทัณฑกานต์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมการหลอกลวงประเภทนี้ คือไฮบริดสแกรม หลอกกลุ่มเป้าหมายเพื่อเข้าร่วมลงทุนโดยการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านสื่อออนไลน์ และสร้างโปรแกรมเสมือนจริง เป็นเครื่องมือหลอกให้โอนเงิน ปัจจุบันพบการแจ้งความถูกหลอกลักษณะนี้มากถึง 60,000 คน รวมมูลค่าความเสียหาย 22,000 ล้านบาท จึงเป็นสิ่งที่ต้องเร่งขยายผลทลายเครือข่ายดังกล่าวให้หมดไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี