เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย นายภูผา ลิกค์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงศ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจุดแรกติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอำเภอแก้งคร้อ ณ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกกุง อำเภอแก้งคร้อ จากนั้นเดินทางติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอำเภอบ้านเขว้า ณ ตลาดเทศบาลตำบลบ้านเขว้า อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ
นายอรรถกร เปิดเผยว่า ปัญหาแหล่งน้ำเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกทั้งไม่สามารถผันน้ำจากลำน้ำชีมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง เพราะไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำที่สามารถเก็บน้ำในช่วงฤดูฝน สำหรับใช้ในการเกษตรและอุปโภค บริโภค กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน จึงได้เดินหน้าพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของภาคการเกษตร ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ นอกจากจะติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ยังได้กำชับกรมชลประทานดำเนินโครงการที่จำเป็นเร่งด่วนและสามารถทำได้ทันทีภายในปี 2567 นี้ เช่น การก่อสร้างสถานีสูบน้ำ งานขุดลอกตะกอนดินให้สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มมากขึ้น เป็นต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวชัยภูมิ
ส่วนโครงการที่อยู่ในแผนระยะต่อไปให้เร่งดำเนินการ ศึกษา สำรวจ และออกแบบให้แล้วเสร็จภายในปี 2569 สำหรับแนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่อำเภอแก้งคร้อ โครงการชลประทานชัยภูมิ ได้เสนอแนวทางการพัฒนาแหล่งน้ำ 11 โครงการ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำและระบบกระจายน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการของ ลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำ โดยมีพื้นที่รับประโยชน์รวม 9,540 ไร่ ซึ่งในระยะเร่งด่วนนี้ มีแผนที่สามารถดำเนินโครงการได้ในปี 2568 ได้แก่ โครงการแก้มลิงโคกหนองห้างพร้อมอาคารประกอบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาลำห้วยสามหมอตอนบน ส่วนอีกหนึ่งโครงการคือ การก่อสร้างอาคารบังคับน้ำในลำห้วยยาง จำนวน 3 แห่ง พร้อมงานขุดลอก นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำอำเภอบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ โดยเป็นแผนระยะสั้น 5 โครงการ เป็นการพัฒนาแก้มลิงธรรมชาติ เพื่อให้สามารถเก็บกัก หน่วงน้ำ และบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมก่อสร้างระบบกระจายน้ำ เพื่อใช้ส่งน้ำไปยังพื้นที่ห่างไกล โดยมีพื้นที่รับประโยชน์รวม 5,200 ไร่
ส่วนแผนระยะกลาง เป็นการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำต้นทุนขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นแหล่งน้ำต้นทุนที่สำคัญของชาวชัยภูมิ โดยมีพื้นที่รับประโยชน์มากถึง 75,000 ไร่ ทั้งนี้ จังหวัดชัยภูมิมีพื้นที่ชลประทาน 426,432 ไร่ (คิดเป็น 10.44% ของพื้นที่การเกษตร) มีปริมาณน้ำท่าเฉลี่ยต่อปี 2,533 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณฝนเฉลี่ยรายปี 1,150 มิลลิเมตร มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลาง จำนวน 14 แห่ง ความจุเก็บกักรวม 383.60 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำในปัจจุบัน (ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2567) มีปริมาณน้ำ 146.89 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 38.29 และน้ำใช้การได้ 93.39 ล้าน ลบ.ม.
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี