"รมว.ยุติธรรม"ลงพื้นที่เหตุระเบิดคาร์บอมบ์หน้าแฟลตตำรวจ ด้าน"ผบช.ภาค 9"เผยคนร้ายปล้นรถราชการก่อเหตุ-ซุกระเบิด 80 กก.หวังสร้างความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐ
ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุระเบิดเหตุคาร์บอมบ์ที่หน้าแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งแรงระเบิดทำให้ นางรอกีเยาะห์ สะระนะ อายุ 45 ปี อยู่ บ.บาเจาะ ม.2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาของโรงเรียนตาดีกา ในพื้นที่ ต.บาเจาะ เสียชีวิต 1 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 34 ราย ทรัพย์สินของข้าราชการตำรวจ ข้าราชการปกครองอำเภอ ประชาชน ได้รับความเสียหายหลายอย่าง เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เสาไฟฟ้า อาคาร บ้านเรือนใกล้เคียงจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหาย
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.ได้ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุริมถนนหน้าอาคารแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ สภ.บันนังสตา พบซากรถยนต์คันที่เกิดเหตุ และรถยนต์รถจักรยานยนต์เสียหายหลายคัน กำแพงของแฟลตพังเป็นช่อง บนพื้นมีเศษซากกระจัดกระจาย ตัวอาคารแฟลตและเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด
พ.ต.อ.ทวี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.บันนังสตา ที่บริเวณแฟลตของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บันนังสตา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นครูผู้หญิง สอนที่โรงเรียนตาดีกา (โรงเรียนสอนศาสนา) แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บันนังสตา ทราบว่าได้มาซื้อกับข้าว อาหาร เพื่อเตรียมประกอบอาหารให้กับเด็กนักเรียนที่โรงเรียน ช่วงเกิดเหตุคุณครูได้ขับรถผ่านมาพอดี จนเกิดระเบิดขึ้น และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายราย ซึ่งขณะนี้มีผู้มาแจ้งความประสงค์ หลังจากทางจังหวัดได้เปิดศูนย์เยียวยารับแจ้งความเสียหาย จำนวน 34 ราย หลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งจังหวัด ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการการให้ความช่วยเหลือเยียวยา รวมทั้งการติดตามความคืบหน้าของคนร้ายในการก่อเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เปิดเผยความคืบหน้าของคดี ว่า รถที่คนร้ายนำมาก่อเหตุคาร์บอมบ์ เป็นรถของทางราชการ ในพื้นที่ อ.ธารโต ที่คนร้ายปล้นมา เป็นรถยนต์กระบะ 4 ประตู สีน้ำเงิน ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข-3320 เบตง (เป็นรถของ อบต.ธารโต) ไม่มีการเปลี่ยนสภาพแต่อย่างใด โดยมีการนำประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส ขนาด 16 กก. บรรจุเหล็กเส้นตัด และดินระเบิด มีน้ำหนักรวมกว่า 80 กก. พร้อมถังน้ำมัน 2 แกลลอน ก่อเหตุ จุดชนวนด้วยการตั้งเวลา
ทั้งนี้ รถคันที่ก่อเหตุดังกล่าว ได้มีการแจ้งหายตั้งแต่เมื่อวาน ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน เท่านั้น สำหรับเส้นทางในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนระหว่างสถานที่ราชการ ทั้งสถานีตำรวจ สภ.บันนังสตา และที่ว่าการอำเภอบันนังสตา โดยจะมีแฟลตอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อยู่ติดกัน การที่จะให้มีการปิดถนนนั้น เนื่องจากว่าประชาชนยังใช้ถนนในการเดินทางมาจับจ่ายที่ตลาด แต่ในช่วงกลางคืนได้ปิดถนน ห้ามสัญจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มีมาตราการต่างๆ ในการเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ แต่ช่วงที่เกิดเหตุนั้น พบว่ารถที่นำมาจอดเป็นรถที่ยังใช้ปกติ เป็นรถที่ใช้ในทางราชการอยู่ คนร้ายนำมาจอด ประมาณ 10 นาที มี จยย.มารับ จากนั้นจึงเกิดเหตุระเบิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้การสืบสวนคืบหน้าไปมาก
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี