สืบนครบาล รวบ "ตาตุ๋ย เคหะ" นักค้าย่านแสมดำ สายรักสุขภาพ ไม่เสพขายลูกเดียว ค้นเจอยาบ้า 90 เม็ด

ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล กำหนดให้มีการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชนโดยเน้นการแพร่กระจายเข้าสู่สังคมและเป็นต้นเหตุของอาชญากรรมอื่น ๆ

วันที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น จับกุม นายสุรวิทย์ อายุ 63 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ” พร้อมของกลางในคดียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) สีส้มกลมแบน บรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีน้ำเงิน ภายในบรรจุยาบ้าจำนวน 90 เม็ด จำนวน 1 ถุง ซ่อนอยู่หน้าห้องน้ำของผู้ถูกจับกุม สถานที่จับกุมบริเวณบ้าน ซ.พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

พฤติการณ์ก่อนจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ว่าได้มีชายไทยสูงวัย ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ได้มีพฤติการณ์ในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด แถวบริเวณพื้นที่ ซ.พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณดังกล่าวฯ พบนายสุรวิทย์ (ทราบชื่อ-สกุลภายหลัง) ตรงตามข้อมูลของสายลับได้ปรากฏตัว มีพฤติการณ์น่าสงสัย คล้ายคนกระทำความผิด โดยขับรถรถจักรยานยนต์ ไม่ติดหมายเลขทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ พร้อมได้แจ้งความประสงค์ที่จะขอตรวจค้นตัว นายสุรวิทย์ โดยนายสุรวิทย์ฯ ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมทำการตรวจค้น โดยก่อนทำการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธ์ใจให้ดูจนพอใจแล้ว

ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งความประสงค์นายสุรวิทย์ฯ เพื่อขอทำการตรวจค้นบ้าน ซ.พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพ นายสุรวิทย์ฯ ยินยอมให้เจ้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวฯ โดยผลการตรวจค้นพบของกลางตามรายละเอียดข้างต้น โดยนายสุรวิทย์รับว่ายาเสพติดดังกล่าวนั้น เป็นของตนจริง จึงนำตัวมาทำบันทึกจับกุม และ ควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติคดี พบเคยโดนคดี มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไป หรือมียาเสพติดที่มีสารดังกล่าวผสมอยู่จำนวน 15 หน่วยการใช้ขึ้นไป สน.ท่าข้าม จำคุก 3 ปี (2559)

จากการสอบปากคำเบื้องต้นในชั้นจับกุม นายสุรวิทย์ฯ ได้ให้การรับว่าได้ไปรับยาเสพติดจากนายเอ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) บริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 11 เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับคนทั่วไปในละแวกใกล้เคียง ในราคาเม็ดละ 30 บาท โดยตนนั้นไม่ได้เสพยาเสพติดแต่อย่างใด อีกทั้งยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจปัสสาวะ โดยผลการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบว่านายสุรวิทย์ฯ ไม่ได้เสพยาเสพติดจริง ผู้ต้องหายังให้การว่า เนื่องจากมีโรคประจำตัว ต้องกินยาตลอด โดยตนรับว่าหันมาขายยาบ้าให้กับชาวบ้านเสพอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สืบสวนจับกุมคนร้ายที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เน้นการแพร่กระจายเข้าสู่สังคมอันเป็นการตัดวงจรต้นเหตุของอาชญากรรมอื่น ๆ จึงขอเตือนภัยไปยังผู้ที่จะทดลองเสพยาเสพติดหรือจำหน่ายยาเสพติดทุกชนิด ล้วนมีผลเสียต่อตนเองและครอบครัว อีกทั้งยังสร้างความเสียหาแก่สังคมส่วนรวม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน