1 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 16.00 น. เกิดเหตุการณ์สยอง นาทีที่มีชาวบ้านบันทึกคลิปวีดีโอจังหวะที่รถด่วนขบวนที่ 86 นครศรีธรรมราช -กรุงเทพอภิวัฒน์ กำลังจะเคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ชานชาลาที่ 1 ตามกำหนดเวลา
ปรากฏว่ามีชายวัยกลางคนทราบชื่อนายมานพ อายุ 47 ปี ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นชายเร่ร่อนมาอาศัยกินนอนอยู่ที่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราชมาได้ประมาณ 1 อาทิตย์ได้ อยู่ในชุดนุ่งกางเกงขาสามส่วนสีดำ ไม่สวมเสื้อ ได้วิ่งคล้ายคนไร้สติ กระโดดพุ่งเข้าใต้ท้องโบกี้รถโบกี้ที่ 5 ท่ามกลางเสียงหวัดร้องของผู้โดยสารจำนวนมากที่เห็นเหตุการณ์ ทำให้รถไฟที่กำลังเคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เหยียบทับร่างนายมานพเข้าลำตัวขาดสองท่อน เสียชีวิตอย่างสยดสยอง ขบวนรถไฟดังกล่าวต้องหยุดรถเสียเวลากว่า 1 ชม.
หลังเกิดเหตุนายฤทธิเดช รอดศรี นายสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช แจ้ง ร.ต.อ.รักเกรียรติ โชติศักดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ และแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เข้าตรวจที่เกิดเหตุและทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น ก่อนยกร่างนายมานพ ออกพ้นจากรางรถไฟให้ขบวนรถด่วนดังกล่าวเคลื่อนขบวนออกจากสถานีรถไฟในเวลา 17.15 น.
ขณะที่นางสาวศันสนีย์ พรหมแก้ว พนักงานทำความสะอาดสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช เล่าว่า เห็นนายมานพ ผู้ตาย เร่ร่อนอาศัยกินนอนอยู่สถานีรถไฟนครศรีธรรมราช นานเกือบ 1 อาทิตย์แล้ว โดยไม่นึกว่าจะมาก่อเหตุฆ่าตัวตายแบบสยองแบบนี้ มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการร์และถ่ายคลิปไว้ได้นาทีที่นายมานพ พยายามจะวิ่งกระโดดเข้าใต้โบกี้ขบวนรถไฟดังกล่าว แต่ห้ามไม่ทันจนนายมานพพุ่งร่างเข้าใต้โบกี้ที่ 5 ถูกรถไฟเหยีบทับร่างขาด 2 ท่อนดังกล่าว นับว่าเป็นเหตุการณ์สยองมากที่ไม่เคยเห็นมาก่อน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี