ชาวบ้าน 200 คน 2 หมู่บ้านใน อ.เชียงของสุดทน เดือดร้อนหนัก บ.เอกชนขนถ่ายหินจากลาวก่อมลพิษ แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายรอบแต่เงียบ-นายอำเภอสั่งระงับขนชั่วคราวก่อนสอบหาข้อเท็จจริง

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม  2567 นายหมอก แสนใหญ่ ชาวบ้านหมู่บ้านใหม่ทุ่งหมด ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือบ้านใหม่ทุ่งหมดและบ้านใหม่ธาตุทองได้ร่วมกันลงกว่า 200 รายชื่อ ยื่นร้องเรียนต่อนายอำเภอเชียงของ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการขนถ่านหินลิกไนต์จากบริเวณพรมแดนใช้กับสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 (ห้วยทราย-เชียงของ) ระยะทางจากหน้าด่านพรมแดนมายังที่พักถ่านหินลิกไต์ประมาณ 5-6 กม.

นายหมอก กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ - ร้องเรียน ไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเชียงของ เนื่องจากบริษัทเอกชน ซึ่งได้ประกอบกิจการลานกองถ่านหินลิกไนต์ ส่งผลให้เกิดมลพิษจากฝุ่นละออง ส่งกลิ่น และน้ำจากกองถ่านหินได้ไหลลงสู่คลองชลประทาน (ร่องแหย่ง) ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชนทั้ง 2 หมู่บ้าน โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วย

“ก่อนหน้านี้เดือนมีนาคมเคยร้องเรียนไปแล้วจากการที่รถขนถ่านหินลิกไนต์บรรทุกโดยไม่มีการคลุมผ้าใบ และตอนมาเทกองมีการบดทำให้ฝุ่นสีดำฟุ้งกระจาย เข้าสู่บ้านเรือนต้องคอยปิดประตูหน้าต่าง ทั้งในเส้นทางที่ผ่านและชุมชนบ้านเรือนบริเวณใกล้กับกองถ่านหินลิกไนต์ ชาวบ้านจึงสงสัยว่าการเป็นพื้นที่ชุมชน สามารถจะอนุญาตให้เทกองถ่านหินและมีกิจกรรมที่ทำให้ฟุ้งกระจายเช่นนี้ได้หรือ” นายหมอกกล่าว

ผู้ร้องเรียน กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบข้อมูลทราบว่าตามผังเมืองรวมที่ตั้งลานกองถ่านหินฯ เป็นพื้นที่สีชมพูไม่สามารถที่จะตั้งที่พักถ่านหินลิกไนต์ที่เป็นอันตรายนี้ได้ และยังสงสัยว่าการที่จะดำเนินการกิจกรรมที่มีผลกระทบต่อชุมชนมีการทำประชาคมหรือไม่ โดยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านกว่า 30 คนจึงได้เข้าพบนายอำเภอเชียงของเพื่อขอฟังการชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเทศมนตรีเทศบาลตำบลสถาน ผู้ใหญ่บ้านบ้านใหม่ทุ่งหมด สาธารณสุขอำเภอเชียงของ แต่ก็ไม่ได้คำตอบทั้งเรื่องประชาคม และการออกใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

“หลังจากเคยร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหลายครั้ง แต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข รถบรรทุกถ่านหินยังวิ่งอยู่ จึงขอเข้าพบนายอำเภอซึ่งได้มีการสั่งหยุดการขนถ่านหินเมื่อวานตอนเย็น แต่จะกลับมาวิ่งและสร้างปัญหาเหมือนเดิมหรือไม่ชาวบ้านยังไม่มีความมั่นใจ”ตัวแทนชาวบ้าน กล่าว

นายอุดม ปกป้องบวรกุล นายอำเภอเชียงของ กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องร้องเรียน ได้สรุปแนวทางดำเนินการแก้ไขปัญหา คือ 1.ประสานสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงรายในการตรวจสอบสถานที่ประกอบกิจการว่าเป็นไปตามตามข้อกำหนดและข้อห้ามการใช้ที่ดินบริเวณดังกล่าวหรือไม่อย่างไร เพื่อให้นายกเทศมนตรีตำบลสถานประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อไป 2.ประสานสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ที่ 1 (เชียงใหม่) ในการตรวจสอบค่าฝุ่นในอากาศและสิ่งปนเปื้อนในแหล่งน้ำบริเวณใกล้เคียงสถานประกอบกิจการเพื่อให้นายกเทศมนตรีตำบลสถานประกอบการพิจารณาเกี่ยวกับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพต่อไป โดยจะเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสองสัปดาห์