ชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลชุมแสง อำเภอกระสังกว่า 50 คนรวมตัวประท้วงขับไล่ผู้ใหญ่บ้านให้ลาออกจากตำแหล่ง กล่าวหามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส่หลายเรื่อง ทั้งเงินธนาคารข้าวหมู่บ้าน เงินฌาปนกิจศพหมู่บ้าน ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านออกมาโต้กลับทันควันหัวหน้าม็อบที่มาชุมนุมคือตัวสำคัญ ยืมข้าวไปแล้วไม่เคยคืน
วันที่ 2 ก.ค.67 ชาวบ้านไม้แดง หมู่ 3 ต.ชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ กว่า 50 คนได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน้ายุ้งฉางธนาคารข้าวประจำหมู่บ้านเพื่อประท้วงเชิงสัญลักษณ์ต้องการขับไล่ผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง โดยอ้างว่ามีพฤติกรรมไม่โปร่งใส เอาข้าวของธนาคารไปขายโดยไม่แจ้งให้ชาวบ้านทราบ ทำให้ข้าวในธนาคารที่มีเต็มยุ้งฉางเหลือเพียงไม่กี่ถุง และไม่ชี้แจงเงินฌาปนกิจศพหมู่บ้านที่เสียชีวิตแล้วญาติไม่ได้เงิน
นางสอ อายุ 57 ปี ชาวบ้านบ้านไม้แดง ต.ชุมแสง อ.กระสัง หนึ่งในกลุ่มประท้วง เล่าว่า ตนช้ำใจกับผู้ใหญ่บ้านคนนี้มานาน 4 ปีเพราะแม่ซึ่งอยู่ในกลุ่มสมาชิกฌาปนกิจศพเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2562 แต่ยังไม่ได้รับเงินฌานปกิจศพจำนวน 4,000 บาทที่ควรจะได้ รวมถึงความไม่โปรงใส่อื่นๆ ของผู้ใหญ่บ้านที่ชาวบ้านไม่พอใจจึงออกมารวมตัวกันประท้วง
นายจิน อายุ 78 ปี ชาวบ้านที่มาชุมนุมด้วยบอกว่า เท่าที่ตรวจสอบข้าวในธนาคารข้าวหายไปเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีการเอาข้าวในยุ้งไปขายไม่มีคณะกรรมการเซ็นต์รับรองแม้แต่คนเดียว อ้างว่าเอาข้าวไปขายได้เงินเอาไปทำบุญ ชาวบ้านไม่รู้ว่าทำบุญอะไร ที่ผ่านมาไปร้องที่อำเภอหลายครั้ง แต่ทางอำเภอทำได้แค่ประนีประนอม แต่ชาวบ้านไม่เอาแล้ว ถ้าให้ผู้ใหญ่บ้านคนนี้บริหารงานต่อไปหมู่บ้านจะไม่เดินหน้า เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยให้ความร่วมมือผู้ใหญ่บ้าน จึงอยากจะฝากไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยให้มาช่วยตรวจสอบหาข้อเท็จจริงด้วย
ด้าน น.ส.เอี่ยม อายุ 51 ปีผู้ใหญ่บ้าน บ้านไม้แดง ผู้ถูกร้อง ได้ออกมาระบุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านกลุ่มนี้มาร้องเรียนเรื่องเงินวัด ตนก็ชี้แจงข้อเท็จจริง ทั้งเป็นหลังฐานบัญชีรายรับรายจ่ายไปแล้วชาวบ้านไม่มีคำโต้แย้ง แล้วเงียบไป หลังจากนั้นได้เบนไปที่การตรวจสอบข้าวในธนาคารข้าวเปลือกของหมู่บ้าน จากการตรวจสอบแล้วกลุ่มผู้ประท้วงมีแต่ข้อกล่าวหาและอยากรู้ว่าข้าวคงเหลือเท่าไหร่ ตนก็ชี้แจงไปว่าข้าวเหลือ 25 ถุง สมาชิกที่กู้ข้าวเปลือกไปเป็นพันธุ์ข้าวไปนั้น ได้ส่งแต่ดอกไม่เคยส่งต้น
น.ส.เอี่ยม กล่าวอีกว่า ยังมีหนี้เสียที่เกิดขึ้นคือสมาชิกที่กู้ข้าวเปลือกไป ไม่มีการชำระคืนตั้งแต่ปี 2560 เท่าที่เห็นแกนนำชาวบ้านประท้วงในครั้งนี้คือคนที่กู้ข้าวเปลือกไปแล้วไม่เคยชำระหนี้ให้กองทุนตั้งแต่ปี 2560 และชาวบ้านอีกหลายคนที่อยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงที่ยังไม่เคยคืนข้าวให้กับธนาคารข้าว บางคนกู้ข้าวเปลือกไปแล้วเอาไปขายไม่ได้เอาไปเป็นพันธุ์ข้าวตามเหตุผลที่มาขอกู้
กรณีข้าวที่เอาไปขายนั้นได้เอาข้าวบางส่วนไปขายจริง เพราะเป็นข้าวเก่านาน 7 ปีเกรงว่าจะเสื่อมสภาพ เมื่อได้เงินมาก็จะเอามาให้ชาวบ้านกู้ยืมเป็นทุนทำนา นอกจากนี้ยังพบว่าข้าวที่เก็บไว้เสียหายจากยุ้งฉากชำรุดมีน้ำเข้าไปเสียหายเป็นจำนวนมาก ครั้งที่ตนสำรวจตอนมารับตำแหน่งใหม่
ทั้งนี้ ในข้อกล่าวหาต่างๆ ของชาวบ้านที่กล่าวหาตน เรื่องอยู่ที่อำเภออยู่ระหว่างการดำเนินการของทางอำเภอ แต่ตนไม่เคยตกใจ ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านมาร้องเพราะเป็นการเมืองคนละขั้ว เป็นคู่แข่งทางการเมืองของผู้ใหญ่ ทั้งสมาชิก อบต.แพ้ผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นจงเกรียดจงชังผู้ใหญ่บ้าน แบ่งฝ่ายชัดเจนไม่เคยให้ความร่วมมือผู้ใหญ่บ้าน น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่มารวมตัวกันร้องเรียนดังกล่าว - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี