ผู้กองหญิง บก.ภ.นครพนม น้ำตาคลอถูกเพจโรงพักในจังหวัดลำพูนนำภาพที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปลงหลอกเงินเหยื่อมาลงเตือนภัยประชาชนระวังมิจฉาชีพจนทัวร์ลงยับ เดือดร้อนไปทั้งครอบครัว ขึ้นโรงพัก สภ.นครพนมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเรียกร้องความรับผิดชอบต้องการเห็นคำขอโทษเชิงประจักษ์ ด้าน"ผบก.นครพนม"ยันเป็นตำรวจนิสัย ติงแอดมินเพจควรไตร่ตรองให้มากกว่านี้
กรณีมีแอดมิดเพจสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูนได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า "แจ้งเพื่อทราบและระมัดระวังตัว มีมิจฉาชีพนำรูปตำรวจหญิงคนนี้ไปแอบอ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองลำพูน หากใครได้รับการติดต่อจากตำรวจหญิงคนนี้ให้หยุดการติดต่อทันที เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงครับ" โดยระบุว่า "บุคคลดังกล่าวแอบอ้างเป็นตำรวจ สภ.ฯ หลอกลวงผู้เสียหายว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน พร้อมข่มขู่ต่างๆ นานา ผู้เสียหายบางรายหลงเชื่อ โอนเงินไปให้แทบหมดตัว"
ทั้งนี้ ภาพที่แอดมินโรงพักแห่งนั้นลงเผยแพร่ครั้งแรกไม่ได้เบลอหน้าหญิงที่แต่งกายเป็นตำรวจและเป็นภาพของ ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช อายุ 31 ปี ตำแหน่งรองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (รอง.สว.ฝอ.ภ.จว.นพ.) นอกจากนี้สื่อออนไลน์ ตลอดจนโทรทัศน์บางช่องได้นำภาพข่าวไปขยายต่อและมีคนเข้ามาคอมเม้นต์เป็นจำนวนมาก ร้อยทั้งร้อยต่างก่นด่าลามไปถึงครอบครัวของผู้กองหญิงรายนี้ แม้จะมีการโทรศัพท์ไปแจ้งแอดมินเพจสถานีตำรวจภูธรดังกล่าวในจังหวัดลำพูนแล้ว ก็ได้รับคำตอบว่าคุณเป็นตำรวจจริง แต่ก็ไม่ใช่ตำรวจโรงพักแห่งนี้และทำได้เพียงเบลอหน้า โดยไม่ยอมลบภาพออกจากเพจแต่อย่างใด รู้ทั้งรู้ว่านำภาพลงผิดคน ทำให้ได้รับความเสียหาย
ล่าสุด ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช ได้เข้าไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองนครพนมไว้เป็นหลักฐานแล้ว ก่อนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับการแจ้งจากลูกศิษย์ที่ตนเป็นติวเตอร์สอนด้านการเงิน การบัญชี รวมทั้งให้ความรู้ในการเตรียมตัวสอบเข้ารับราชการตำรวจ และหน่วยงานอื่นๆว่า มีภาพข่าวของตนถูกเผยแพร่ว่อนในโลกโซเชียล ทีแรกก็มีการโทรศัพท์ไปเคลียร์ให้แอดมินเพจโรงพักนั้นแล้ว ยืนยันว่ามีตัวตนจริงและรับราชการอยู่ บก.ภ.จว.นครพนม แต่กลับได้รับคำตอบที่ตนรับไม่ได้ ทั้งไม่คิดจะแก้ไขให้ทำแค่เบลอหน้าเท่านั้น ปรากฏว่ามีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นในด้านลบจำนวนมาก เมื่อครอบครัวเห็นก็ไม่สบายใจ ตนจึงขอรับคำปรึกษาจากผู้บังคับบัญชา พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครพนม ท่านก็ได้โทรไปสมทบอีก แต่แอดมินเพจโรงพักนั้นก็เพิกเฉย
"การที่ต้องออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบครั้งนี้เพื่อต้องการเห็นคำขอโทษอันเป็นประจักษ์ต่อสาธารณะ" ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช กล่าวพร้อมกับมีเสียงสั่นเครือและน้ำตาคลอ ทำให้ตำรวจหญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ต้องส่งกระดาษทิชชูให้ซับน้ำตา
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม กล่าวว่า ผู้กองนายนี้ได้รับความเสียหาย กระทบไปถึงครอบครัวด้วย อยากให้ทางแอดมินเพจมีการไตร่ตรองให้มากกว่านี้และขอยันยืนว่าเป็นตำรวจนิสัยดี ใช้เวลาว่างเป็นอาจารย์สอนวิชาการเงิน การบัญชี ฯลฯ ลูกศิษย์หลายคนสามารถสอบงานราชการได้หลายคน การที่ต้องมาเจอข่าวแบบนี้ก็อยากให้แอดมินโรงพักนั้นเดินทางมาขอโทษเชิงประจักษ์ที่นครพนม
โดยมูลเหตุเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ใช้ระบบ AI พูดคุยกับผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือเป็นหน้าของ ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช เพื่อหลอกให้โอนเงินเข้าบัญชีก่อนจะติดต่อไม่ได้ ผู้เสียหายจึงนำภาพการพูดคุยมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน แอดมินเพจก็นำไปเผยแพร่โดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ หลังเกิดเรื่องราวบานปลายและทราบข้อเท็จจริงแล้วกลับทำได้แค่เบลอหน้า และแสดงความขอโทษ อ้างไม่มีเจตนาที่จะทำให้ข้าวของรูปภาพจริงเสียหาย ในขณะเดียวกันก็ยังไม่มีการลบ จึงมีแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดเวลา ผู้กองหญิงจึงต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนเอง
นอกจากนี้ก็มีเครือญาติของ ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช เข้าไปแสดงความคิดเห็นว่าเป็นหลานสาวตน รับราชการตำรวจอยู่ จ.นครพนม การเสนอข่าวไม่เป็นความจริง จึงขอความเป็นธรรม เพราะเสื่อมเสียต่อหน้าที่การงานและวงศ์ตระกูล ซึ่งแอดมินเพจก็ไม่รู้สึกสำนึกผิดแต่อย่างใด - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี