หนุ่มเสื้อสีชมพูช่างตัดผม ร้องผู้การอุดรในคลิปเหตุการณ์ตำรวจล้อมจับแก๊ง 4 ผู้ต้องหาอ้างเป็นนักข่าวรีดทรัพย์ 1 แสน วอนสื่อเห็นใจมีภาพออกไปโดยไม่เบลอ อยากให้แก้ไขภาพที่ปรากฏออกสื่อ ลั่นหากไม่แก้ไขขอค่าเยียวยาตามความเหมาะสมเนื่องจากได้รับความเสียหาย
วันนี้ (5 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอังกฤษฎา ราวินิช คณะทำงานสถานียุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้พานายเด่นจำรัส อายุ 50 ปี อาชีพช่างตัดผมพร้อมด้วยนางประนอม ภรรยา เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ต.สรรธาน อินทจักร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี กรณีตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานีบุกเข้าจับกลุ่ม 4 ผู้ต้องหาแก๊งอ้างเป็นนักข่าวรีดทรัพย์ที่ตลาด ส.นงนุช เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เวลา 17.20 น.ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 2 ก.ค.67 ได้มีข่าวและคลิปตำรวจอุดรบุกจับ 4 นักข่าวรีดทรัพย์เผยแพร่ออกทางทีวีหลายช่อง ปรากฏมีภาพของหนุ่มเสื้อสีชมพูถูกควบคุมตัวและเผยแพร่ออกทั่วประเทศ ในลักษณะถูกควบคุมตัวมือไขว้บนหัวทำให้ได้รับความอับอายเสียหาย เจ้าตัวฯจึงร้องขอความเป็นธรรมต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีโปรดให้ความยุติธรรมกับการกระทำจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและขอให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้ากับภรรยาให้มีการทบทวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมต่อประชาชนและขอให้มีการแก้ไขแจ้งข่าวต่อสื่อทุกแขนงที่จะลงภาพผิดพลาดไปขอให้แก้ไข เยียวยาตามความเหมาะสม
นายเด่นจำรัส ช่างตัดผม เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตนกำลังจะไปซื้อกับข้าวมากินเนื่องจากเพื่อนเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี โดยตนเอารถยนต์ขับมาพอมาถึงตลาดก็ขับช้าๆ เนื่องจากช่วงเวลานั้นรถเยอะ แต่ก็ไม่ได้ที่จอด จึงขับรถไปประสบเหตุพอดี จอดรถอยู่ที่บริเวณเกิดเหตุตรงจุดที่ตำรวจบุกชาร์ทจับกุม 4 นักข่าวพอดิบพอดีจังหวะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาจับกุมตามคลิปที่สื่อนำเสนอ
"ส่วนตัวแล้วผมไม่รู้จักกลุ่มที่ถูกตำรวจจับกุม ผมมีอาชีพเป็นช่างตัดผมอยู่ที่บ้านหนองตูมที่อยู่ใกล้กับตลาด จนเวลาผ่านไปค่ำมืดภรรยาก็มาตาม เห็นผมนั่งกับกลุ่มนักข่าวที่ถูกจับกุม ภรรยาก็บอกกับตำรวจว่าไปจับเขาทำไมเขามาซื้อกับข้าวเฉยๆ ตำรวจก็ชี้แจงว่าแค่เขาเป็นผู้ต้องสงสัยเฉยๆ ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วผมไม่มีความผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็กล่าวคำขอโทษ และปล่อยตัวมา" นายเด่นจำรัส ช่างตัดผม กล่าว
นายเด่นจำรัส ช่างตัดผม กล่าวต่อว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่นั้นส่วนตัวไม่ได้ติดใจ แต่ติดใจตรงที่สื่อมวลชนนำภาพตนเอาออกไปเผยแพร่ โดยชาวบ้านที่มามุงดูต่างคนก็พูดไปต่างๆ นานา ทำให้มีผลกระทบต่องานที่ทำรายได้ลดลง ตอนนี้ชาวตลาดก็ยังสงสัยเราอยู่ว่าเรามีส่วนเกี่ยวข้อง ขอฝากถึงสื่อมวลชนที่นำภาพตนไปเผยแพร่ว่าตนเป็นคนบริสุทธิ์ตนมีอาชีพตัดผมทำงานบริการ สื่อนำภาพโดยเผยแพร่โดยไม่เบลอหน้าแบบนั้นขาดทำให้ตนขาดความน่าเชื่อถือ จากเคยมีงานก็ทำให้ไม่มีงาน นอกจากนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทบทวนการปฏิบัติงาน และอยากให้เจ้าหน้าที่มีการเยียวยาตามความเหมาะสมต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี