วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เวลา 12.00 น. ที่ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญหนุ่มวัย 26 ก่อเหตุ ฆ่าโหดชิงรถเก๋งเพื่อนำไปวางแผนใช้ในการก่อเหตุชิงทองกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ โดยคืนที่ผ่านมาได้มีการควบคุมตัว นายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง คุมขังไว้ที่ สภ.แม่ปิงเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่าวันนี้ได้มาติดตามในส่วนของคดีวิ่งราวทรัพย์ หรือชิงทองในส่วนของพื้นที่ สภ.แม่ปิง หลังจากเมื่อวานเป็นคดีฆาตรกรรม และชิงทรัพย์ในท้องที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จะมาติดตามเรื่องของพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และการสอบสวนผู้ต้องหา และพยานทั้งหมดว่าไปถึงไหนแล้ว ซึ่งในส่วนของผู้ต้องหาก็จะต้องมีการสอบปากคำเพิ่มเติมเนื่องจากมีบางส่วนที่ยังให้การไม่ครบถ้วนตั้งแต่การรับสารภาพว่าก่อเหตุ ขั้นตอนการดำเนินการวางแผนก่อเหตุ วันนี้ได้เชิญทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเพื่อนำหลักฐานต่างๆทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปพยานหลักฐานร่วมกัน ซึ่งงผลประชุมจะเป็นเช่นไรก็จะนำเรียนผ่านทางสื่อมวลชนอีกครั้ง
ส่วนระยะเวลาในการควบคุมตัวตอนนี้ยังมีเวลาเหลือในช่วง 48 ชั่วโมงตามกฏหมายเนื่องจากเริ่มควบคุมตัวฝากขังเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังเพียงพอต่อการทำงาน แต่ก็ต้องเร่งสอบปากคำเนื่องจากมีคดีเกิดขึ้น 2 พื้นที่ด้วยกัน
ส่วนผู้ก่อเหตุจนถึงเวลานี้ยังไม่ปรากฏบุคคลอื่นที่ร่วมก่อเหตุพยานหลักฐานต่างๆ ยังพุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องหาก่อเหตุคนเดียวอยู่ ยังไม่ได้ตัดประเด็นข้อสงสัยหรือไทม์ไลนที่ขัดแย้งกับคำให้การ หรือหลักฐานต่างๆ ช่วงเวลา รวมถึงรถที่ใช้ก่อเหตุแต่หากพบว่ามีความขัดแย้งก็จำเป็นที่จะต้องสืบสวนตรงนั้นเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องจำนวนทองที่ผู้ต้องหาได้ไปนั้นรวมอยู่ที่ 80 บาท และผู้ต้องหานำไปจำนำ และขาย 2 เส้น ได้เงินประมาณ 7 หมื่นบาท ส่วนทองที่เหลือเมื่อคืนหลังพาผู้ต้องหาไปชี้จุดทิ้งศพแล้วได้พาไปตรวจค้นซ้ำที่บ้านอีกครั้งก็ได้ทองเพิ่มมาอีกจำนวน 5 เส้น และทองที่จำนำหรือเอาไปขายก็จะให้เจ้าหน้าที่ไปอายัดมาให้ครบถ้วน ส่วนเงินที่ได้จากการจำนำและขายทองนั้นผู้ต้องหาได้โอนเข้าบัญชีพ่อและแม่ ซึ่งเรามีหลักฐานในการโอน
ทั้งนี้จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้ตัวผู้ต้องหาอย่างรวดเร็วนี้นถือเป็นการดีเนื่องจากในบันทึกของการวางแผน และคำให้การของผู้ต้องหานั้นมีการเตรียมการที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ด้วยเงินที่ได้มาจะนำไปซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทาง แต่โชคดีที่เราได้ตัวก่อน เพราะเบาะแสที่ได้จากรถยนต์ของผู้ตาย ซึ่งจากการที่ผู้ต้องหาวางแผนในการชิงรถของผู้ตายก็เพื่อที่จะเป็นการอำพราง และประวิงเวลาเพื่อให้ได้หลบหนีออกจากนอกประเทศ แต่ปรากฏว่าพฤติกรรมที่เลียนแบบจากหนัง หรือเกมส์นั้น ไม่เป็นไปตามความเป็นจริงที่คาดหวังไว้ เพราะพยานหลักฐานต่างๆ นั้นทิ้งร่องรอยไว้เยอะ ทั้งในส่วนของหลักฐานที่ได้จากคลิปมือถือว่าผู้ต้องหาไปสำรวจเส้นทางเดินป่า มาหลายรอบ คำนวนระยะเวลาในการเดินในแต่ละจุดที่จะใช้เป็นเส้นทางไว้หมดแล้ว และมีการวางแผนเป็นขั้นตอนเป็นแผน เอ แผนบี แผนซี ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นไปตามแผนที่คาดการณ์เพราะไม่ได้ปกปิดอำพรางในเรื่องของยานพาหนะ แต่ปกปิดอำพรางแค่ตัวเองเท่านั้น
ในส่วนของว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี เหยื่อผู้เสียชีวิตที่ถูกสังหารโหดชิงรถยนต์ นั้นจากการสอบสวนพบว่าเป็นเพียงเหยื่อของคดี ซึ่งผู้ต้องหาสุ่มเรียกใช้บริการโดยมุ่งเป้าสังหารเพื่อชิงรถไม่ระบุว่าเป็นใครหรือใช้รถอะไร จึงตัดประเด็นเรื่องรู้เห็นเกี่ยวข้องกับคดีออกไป อีกทั้งผู้ตายเป็นคนทำมาหากินจากการสืบสวนพบว่าผู้ตายมีบ้านอยู่ที่อำเภอแม่แตง ซึ่งไกลจากตัวเมือง ตนเองมีอาชีพหลักในการขับรถโดยสารผ่านแอพพลิเคชั่น และไม่มีที่อยู่อาศัยในตัวเมือง ด้วยความที่ต้องงานรับงานให้มากบ่อยครั้งจะอาศัยจอดรถเพื่อหลับนอนตามปั้มน้ำมัน และมักจะตื่นเช้าเพื่อเปิดรับงาน เนื่องจากช่วงเช้าจะไม่ค่อยมีคู่แข่งในการรับงาน จึงจบประเด็นที่ว่าเหตุใดมารับงานในตอนเช้ามืดที่คนส่วนใหญ่ไม่ทำกันลงไป การก่อเหตุสังหารจึงพุ่งเป้าไปที่ผู้ต้องหาต้องการรถไปใช้ก่อเหตุ ไม่ได้มีความรู้จักหรือมีปมขัดแย้งกับผู้ตาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เปิดคำสารภาพ‘โจรชิงทอง’เชียงใหม่ เรียกรถผ่านแอป ยิงคนขับ-ทิ้งร่างลงเหว นำรถไปก่อเหตุ
โซเชียลแห่อาลัย! 'ว่าที่ร้อยโท'ไรเดอร์ ถูกคนร้ายชิงทองยิงดับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี