กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยการมอบหมายนโยบายจาก น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวง อว.ให้หน่วยบพท. ร่วมกับ 7 หน่วยงานคือ ศอ.บต. จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ประสานพลังความรู้ พลังภาคี แก้ปัญหาความยากจน เปิดมิติใหม่ ใช้ความรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ สู้เอาชนะความรุนแรง จังหวัดชายแดนใต้ ตามแนวทางสันติวิธี
นายนันทพงศ์ สุวรรณรัตน์ รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) นางพาตีเมาะ สะดีมายูผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ผศ.ดร.อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลา นครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผศ.ดร.ศิริชัย นามบุรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ผศ.ดร.ปรีชา สะแลแม อธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และ ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้ประกอบพิธีลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง “การขับเคลื่อนข้อมูลเพื่อการตัดสินใจพัฒนาพื้นที่วิจัยเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อขจัดความยากจน และยกระดับฐานะทางสังคมในจังหวัดชายแดนใต้” ณ โรงแรมซีเอสปัตตานี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 โดยมีแพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนาที่ปรึกษา รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงาน สกสว. สอวช. ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนาม
สาระสำคัญในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ซึ่งมีการลงนามกันดังกล่าว มีเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ 4 ประการ ดังนี้ 1.เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูล การพัฒนาระบบและโครงสร้างการแก้ไขปัญหาความยากจนด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และนำมาพัฒนาเป็นระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจ2.เพื่อขับเคลื่อนข้อมูลเพื่อการตัดสินใจที่เบ็ดเสร็จ แม่นยำในการพัฒนาพื้นที่วิจัยเชิงยุทธศาสตร์ และขจัดความยากจน และยกระดับฐานะทางสังคม ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3.เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการวิจัยและนวัตกรรมขจัดความยากจน และยกระดับฐานะทางสังคมในพื้นที่วิจัยเชิงยุทธศาสตร์ และ 4.เพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ สถาบันวิชาการ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาคนจนเป้าหมาย ให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมถึงส่งเสริมการเรียนรู้การพัฒนาทักษะ และหาแนวทางในการปรับปรุงเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการดำรงชีพให้เอื้อต่อการสร้างหรือเพิ่มรายได้ เพื่อให้คนจนเป้าหมายสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง
โอกาสนี้ ผศ.ดร.อรุณีวรรณ บัวเนี่ยว รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพันธกิจสังคม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เปิดเผยว่า นอกเหนือจากการลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การขับเคลื่อนข้อมูลเพื่อการตัดสินใจพัฒนาพื้นที่วิจัยเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อขจัดความยากจน และยกระดับฐานะทางสังคมในจังหวัดชายแดนใต้ ของ 8 หน่วยงานแล้ว ยังมีการสัมมนาพหุภาคีในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อระดมความคิดเห็น และแสวงหาแนวทางในการเสริมพลังการแก้ปัญหาความยากจน ด้วยงานวิจัย นวัตกรรม ตลอดจนเทคโนโลยีพร้อมใช้
ในงานนี้มีการนำโมเดลแก้จน และนวัตกรรม รวมทั้งเทคโนโลยีพร้อมใช้ ที่ผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมาแล้ว รวม 8 ด้าน จากคณะนักวิจัย 6 มหาวิทยาลัยคือ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มหาวิทยาลัยฟาฏอนี มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย มาจัดแสดง ประกอบด้วย 1.โมเดลแก้จนด้านสังคมและคุณภาพชีวิต 2.นวัตกรรมพลังงานและเทคโนโลยีชีวมวล 3.เทคโนโลยี การเกษตรและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรประเภทผัก ผลไม้ 4.นวัตกรรมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ 5.เทคโนโลยีปศุสัตว์และอาหารสัตว์ 6.เทคโนโลยีดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ 7.เทคโนโลยีอาหาร สมุนไพร และการแปรรูป และ 8.เทคโนโลยีการแปรรูปอาหารทะเล
สุดท้าย ดร.กิตติ ผู้อำนวยการหน่วย บพท. ได้กล่าวว่า กิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้รับการความสนใจและตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายมหาวิทยาลัยพัฒนาพื้นที่ กลุ่มธุรกิจชุมชน และกลุ่มครัวเรือนยากจนกว่า 500 คน เข้าร่วมงาน ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้ที่เรื้อรังยาวนานมากว่า 20 ปี ด้วยแนวทางสันติวิธี จากการสร้างรายได้-เสริมความมั่นคงด้านอาชีพ ด้วย 104 นวัตกรรมและเทคโนโลยีพร้อมใช้บนฐานงานวิจัย เพื่อยกระดับศักยภาพและขับเคลื่อนระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยการสนับสนุนจากระบบกองทุน อววน. ภายใต้ความร่วมมือกันของภาคีทุกภาคส่วนในพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี