ปลัด มท.พร้อมด้วยนายกสมาคมแม่บ้าน มท. นำคณะผู้บริหาร หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมรับชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ “ฉัตรแก้วคุ้มเกล้าชาวประชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ” ย้ำ คนมหาดไทย ต้องเป็นผู้นำทำก่อน กล้าทำความ ดี ด้วยหัวใจ มุ่งมั่นช่วยกันแก้ไขในสิ่งผิด ทำให้ “ประเทศมั่นคง ประชาชนมีความสุข” พร้อมให้ทุกกรม ทุกรัฐวิสาหกิจในสังกัด ช่วยเผยแพร่ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ให้เข้าถึงนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยอย่างหลากหลายและต่อเนื่อง เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
วันนี้ (10 ก.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมราชบพิธชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และสมาชิกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมรับชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอน “ฉัตรแก้วคุ้มเกล้าชาวประชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ” โดยมี อาจารย์ธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม นายเชษฐา โมสิกรัตน์ นายราชัน ซุ้นหั้ว รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายณัฐวัสส์ วิริยานภาภรณ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายวัชรเดช เกียรติชานนท์ รองหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมรับชม
โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะ ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และรับฟังการบรรยาย เรื่อง “ความเป็นมาของชนชาติไทย” โดย นายกำพล สืบอินทร์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ผู้ผ่านโครงการฝึกอบรมวิทยากรผู้ถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น รุ่นที่ 12 แล้วร่วมรับชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอน “ฉัตรแก้วคุ้มเกล้าชาวประชา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ” ความยาว 23.45 นาที ซึ่งภายหลังจากการรับชม ทุกคนต่างร่วมยืนขึ้นร้องเพลงสดุดีจอมราชา เพื่อสรรเสริญพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทย ได้จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธง ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมเป็นพลังแผ่นดินในการเสริมสร้างความรู้รักสามัคคี ความปรองดองสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน รวมทั้ง ส่งเสริม และสนับสนุนการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ตลอดจนการจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณของพระองค์ โดยเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกพื้นที่ ร่วมรับชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจรวมไปถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ พระผู้ทรงปิดทองหลังพระ ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท ตรากตรำพระวรกาย เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“สารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ ชุดนี้ กระทรวงมหาดไทยได้รับความอนุเคราะห์จากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ.จอส.พระราชทาน) และโรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน ในการนำสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ ไปเผยแพร่แก่ประชาชนทั่วไป รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนบุคลากร คือ นายกองเอกธารณา คชเสนี (ครูป๊อด) นายหมวดตรี น้ำเพ็ชร คชเสนี สัตยารักษ์ (ครูปั๊ม) และดร.ลักษิกา เจริญศรี (ครูป้ายู) เป็นวิทยากรฝึกอบรมโครงการฝึกอบรมวิทยากรผู้ถ่ายทอดความรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น (ครู ก.) รวมทั้งสิ้น 19 รุ่น ซึ่งเราได้ขยายผลต่อยอดโดยจัดโครงการขยายผลวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นระดับอำเภอและระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ครู ข.) เพื่อขับเคลื่อนเรื่องวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่นในพื้นที่ 76 จังหวัดทั่วประเทศไทย กระตุ้นปลุกเร้าพลังแห่งการเป็น “ทหารเสือของพระราชา” เพื่อเป็นเสาหลักสนับสนุนทำให้เกิดหมู่บ้านยั่งยืน ทำให้คนทุกเพศทุกวัยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น รู้จักรากเหง้าของบรรพบุรุษ มีความผูกพัน ความรัก ความสามัคคีของคนในครอบครัว ในชุมชน ในอำเภอ ในจังหวัด มีความรู้รักสามัคคี สร้างสิ่งที่ดีให้กับประเทศชาติอย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้กำหนดให้สถานศึกษาในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้บรรจุหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เกิดความรักชาติ เป็นคนดี มีศีลธรรม โดยการส่งเสริมให้ "ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้" วันละ 1 ชั่วโมง รวม 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมทั้งยังส่งเสริมให้เรียน วิชาศีลธรรม และหน้าที่พลเมือง โดยใช้ “หนังสือนวโกวาท” พระนิพนธ์ในสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นแบบการเรียนการสอน ซึ่งมีเนื้อหาหลักเกี่ยวกับศีลธรรมและหลักธรรมะ ซึ่งจะอบรมกล่อมเกลาหนุนนำให้จิตใจมีความเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการทำสิ่งที่ดี รวมถึงดำรงชีวิตอยู่ในกรอบแห่งคุณธรรม ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้จะขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนได้ เป็นหน้าที่ที่สำคัญของพวกเราชาวมหาดไทยในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องช่วยกันน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการ “แก้ไขในสิ่งผิด” ช่วยกันเอาใจใส่ช่วยเหลือดูแลสังคมในลักษณะ “จิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” โดยหลังจากนี้ ทุกกรม ทุกรัฐวิสาหกิจ และทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จะได้ใช้โอกาสที่ดีเพื่อปฏิบัติบูชาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการจัดกิจกรรมฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมทั้งเชิญชวนให้คนในหน่วยงานได้พาลูกจูงหลาน พาสมาชิกในครอบครัวมาร่วมรับชม เพื่อสร้างความรัก ความอบอุ่นในครอบครัว ตลอดจนร่วมนำภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ขยายผลไปยังสถานศึกษาต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในบริเวณโดยรอบหรือใกล้เคียงหน่วยงาน ซึ่งจะสามารถต่อยอดไปสู่การเปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมมอบทุนการศึกษา มอบการช่วยเหลือต่าง ๆ อันเป็นการปฏิบัติบูชาทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกับโรงเรียนวัดราชบพิธ และโรงเรียนต่าง ๆ โดยรอบพื้นที่กระทรวงมหาดไทย สร้างโอกาสที่ดีของชีวิตให้กับนักเรียน ด้วยการส่งเสริมให้นักเรียนได้ร่วมรับชมภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนกรกฎาคมอันเป็นเดือนมหามงคล ที่พวกเราจะได้ร่วมน้อมจิตน้อมใจทำสิ่งที่ดีร่วมกัน ควบคู่กับการเชิญชวนให้ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งส่วนราชการระดับกรมและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ร่วมกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองในทุกวันหรือตามความเหมาะสม ยกเว้นวันอังคารจะเป็นการแต่งเครื่องแบบปฏิบัติราชการ (สีกากี) มุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่เกี่ยง ไม่อาย ที่จะทำความดี มีความกล้าหาญชาญชัยที่จะทำแต่สิ่งที่ดี เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ท่านทรงมีพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นแน่วแน่ ในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข ดังพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป"
“ให้ทุกกรม ทุกรัฐวิสาหกิจในสังกัด ช่วยเผยแพร่ภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ให้เข้าถึงนักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยอย่างหลากหลายและต่อเนื่อง เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเน้นย้ำ
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่อาณาราษฎรจะมีความสุขตลอดไปได้นั้น “ประเทศชาติจะต้องมั่นคง” พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำรัสอันเป็นการขยายความพระปฐมบรมราชโองการ ความว่า "ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ดังนั้น ขอให้พวกเราช่วยกันแก้ไขในสิ่งผิด และไม่อายที่จะต้องกล้าพูด กล้าทำ กล้าให้คำแนะนำ เพื่อให้ลูกน้องช่วยกันแก้ไขในสิ่งผิด และน้อมนำเอาแนวพระราชดำริของพระองค์มาช่วยกันแก้ไขผ่านการทำกิจกรรมจิตอาสา การทำความ ดี ด้วยหัวใจ การดูแลรักษาฟื้นฟูแหล่งน้ำคูคลอง ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ "โครงการ 10 คลองสวยน้ำใสคนไทยมีสุข" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จึงขอให้พวกเราทุกคนช่วยกันทำความดีต่อไป ทำหน้าที่ของตนเองให้บริบูรณ์ ทำในสิ่งที่นอกเหนือจากหน้าที่ประจำในทุกเรื่องหากพิจารณาแล้วว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่อทำให้สังคมมีความสุข
"งานที่สำคัญของพวกเราทุกคน คือ “การสร้างหมู่บ้านยั่งยืน” สร้างหมู่บ้านที่รู้รักสามัคคี มีการรวมกลุ่ม มีจิตอาสา มีการรวมกลุ่มอย่างเป็นระบบ ลักษณะกลุ่มบ้าน หย่อมบ้าน คุ้มบ้าน ป๊อกบ้าน โดยมี 7 ภาคีเครือข่ายในฐานะทหารเสือของพระราชาเป็นทีมของนายอำเภอ ภายใต้ชื่อ “ทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” รวมถึงเน้นย้ำให้ข้าราชการผู้รับผิดชอบประจำตำบลร่วมกันขับเคลื่อน อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะช่วยกันส่งเสริมให้เกิด “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานไว้ให้กับชาวมหาดไทย รวมถึงการน้อมนำหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้รับการถอดบทเรียนจากโครงการพระราชดำริ 4,741 โครงการ และทฤษฎีใหม่ที่มีมากกว่า 40 ทฤษฎี คือ “หลัก 4 ร.” (4 กระบวนการ) คือ ร่วมพูดคุย ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมรับประโยชน์ เพื่อโดยทำให้คนในสังคมมีความสุข และช่วยกันทำให้พันธกิจของคนมหาดไทยที่ได้รับการส่งต่อถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาตลอด 132 ปี ช่วยกันทำให้ประเทศนี้มีความมั่นคง ทำให้ประชาชนมีความสุข ด้วยการอุทิศแปลงกายแรงใจทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างไม่หยุดยั้ง" นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี