ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แนะยันต์กันไฟไหม้ชุมชนต้องช่วยกันระวัง “ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ” สปภ.เร่งถอดบทเรียนเหตุชุมชนตรอกโพธิ์ ปรับปรุงแผนเผชิญเหตุอัคคีภัยในชุมชน
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงกรณีเกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่ชุมชนตรอกโพธิ์ว่า กรุงเทพมหานครมีการอบรมการหนีไฟแก่ชุมชนต่างๆ โดยปีนี้อบรมกว่า 300 ชุมชน ซึ่งชุมชนตรอกโพธิ์ก็ได้มีการอบรมเมื่อช่วงต้นปีนี้ จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนหนีไฟได้ ไม่มีผู้เสียชีวิต
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ มี 256 ชุมชน ที่รถดับเพลิงเข้าถึงยาก ซึ่งคำตอบไม่ใช่แค่มีประปาหัวแดงแล้วจะปลอดภัย แต่ต้องมีเรื่องถังดับเพลิง การซ้อมหนีไฟ การเข้า-ออกของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงฯ ด้วย เพราะผู้ใช้ประปาหัวแดงจะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ จากนี้ได้สั่งการให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยลุยลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ อาทิ สำเพ็ง ราชวงศ์ พาหุรัด เจริญชัย คลองถม ฯลฯ เพื่อติดตามสภาพพื้นที่ ความแออัด สภาพสายไฟ รวมถึงทบทวนแผนการเข้าดับเพลิงในพื้นที่ต่างๆ “หัวใจคือการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุ เช่น ไม่เผลอเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้ ไม่จุดธูปทิ้งไว้ โดยชุมชนต้องช่วยกันดูแลและระมัดระวังในเรื่องเหล่านี้ด้วย”
ด้าน นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กล่าวว่า สปภ. ได้เตรียมความพร้อมและมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะชุมชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ถนน ตรอก ซอยมีขนาดเล็กและแคบ หรือมีข้อจำกัดทางกายภาพ โดยที่ผ่านมาผู้บริหาร กทม. ได้ให้ความสำคัญและมีนโยบายให้สำนักงานเขตจัดทำแผนเผชิญเหตุอัคคีภัยในแต่ละชุมชนและกำหนดให้ฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟร่วมกับสำนักงานเขตและสถานีดับเพลิงและกู้ภัยในพื้นที่ รวมทั้งได้สนับสนุนเครื่องดับเพลิงยกหิ้วฯ ให้กับชุมชนไว้ป้องกันตนเองในเบื้องต้น แต่ในกรณีเหตุเพลิงไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ เขตสัมพันธวงศ์นั้น เนื่องจากลักษณะที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ปลูกติดกันหลายหลัง ทำให้การลุกลามของไฟเป็นไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม สปภ. จะบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนสรุปบทเรียนจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เพื่อนำมาปรับปรุงแผนเผชิญเหตุและประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย สร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯให้ช่วยกันสำรวจตรวจตราอุปกรณ์ไฟฟ้าสายไฟภายในอาคารบ้านเรือน หากมีสภาพเก่า หรือชำรุด ขอให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัย หากประชาชนที่ประสบเหตุเพลิงไหม้ หรือเหตุสาธารณภัยสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้แนะให้ประชาชนเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโดยทำยันต์กันอัคคีภัยเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลของกทม. ข้อความแนะวิธีดูแลอาคารบ้านเรือน ป้องกันเกิดเหตุ และวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อให้ปลอดภัย ดังนี้ “ยันต์กันไฟ” มีสติ ห้ามลืมปิดไฟถอดปลั๊ก ดับธูปเทียน ตรวจแก๊สหุงต้มปิดดีหรือยัง เช็คสภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าต้องปลอดภัยหรือเปลี่ยนใหม่ ตรวจเช็คสายไฟถ้าชำรุดต้องรีบเปลี่ยน ติดตั้งเครื่องตัดไฟแก้ไขไฟฟ้าลัดวงจร ตรวจถังดับเพลิงต้องพร้อมใช้งานอยู่เสมอ รวมถึงหมั่นตรวจเช็คระบบป้องกันเพลิง ตรวจเช็คระบบแจ้งเตือน และสำรวจจุดเสี่ยง แนะปฏิบัติตัวเมื่อเกิดไฟไหม้ ตั้งสติ กดสัญญาณเตือน โทรแจ้งเหตุ 199 “เหตุเพลิงไหม้” หยิบถังดับเพลิง ดับไฟ ใช้ผ้าชุบน้ำปิดปาก-ปิดจมูก และหมอบต่ำ ขณะเกิดเพลิงไหม้ก่อนเปิดประตู ให้สัมผัสลูกบิดหากร้อนห้ามเปิด ถ้าไม่ร้อนให้เปิดประตูช้าๆ ถ้าเสื้อติดไฟ หยุดเดินวิ่ง หมอบลงพื้นมือปิดหน้าแล้วกลิ้งไปมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี