สพฐ.ไม่เอาไว้!!! สั่งย้าย"ผอ.รร."ทำอนาจารนักเรียน ไม่เกิน 7 วันรู้ผล หากผิดจริง"ปลดออก-ไล่ออก"เท่านั้น
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงกรณีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ลวนลามและกระทำอนาจารนักเรียนกว่า 30 คน ว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากคณะครูและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาต้นสังกัดแล้ว และจะไม่เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ลักษณะนี้เด็ดขาด โดยขณะนี้ สพฐ.มีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าวเข้ามาประจำที่ส่วนราชการ สพฐ.โดยให้มารายงานตัวที่ สพฐ.ส่วนกลาง ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 แล้ว เพื่อเปิดทางให้การสืบสวนในพื้นที่เป็นไปอย่างสะดวก ปรากฏข้อเท็จจริง และป้องกันไม่ให้ผู้อำนวยการโรงเรียนซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานบุคคล หลักฐาน และเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนผู้ถูกกระทำ
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อเด็กเป็นการกระทำที่ขัดต่อนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) อย่างร้ายแรง และไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งยังขัดต่อนโยบาย "เรียนดี มีความสุข" ของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่โรงเรียนควรจะต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด ผู้บริหารและครูจึงควรเป็นบุคคลที่ทำให้นักเรียนอยู่ในโรงเรียนแล้วรู้สึกปลอดภัย ไม่ควรมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ สพฐ.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแล้ว และหากพบว่ามีมูลความผิดเป็นไปตามข้อกล่าวหาของครูที่มาร้องเรียน หรือเป็นไปตามข้อกล่าวหาของนักเรียนและผู้ปกครอง บทลงโทษทางวินัย คือการปลดออก - ไล่ออก เท่านั้น
"ผมได้สั่งการให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงลงพื้นที่ไปสอบพยานแวดล้อม ทั้งสอบครู และผู้ปกครอง ขอเวลาไม่เกิน 7 วัน เพื่อให้ได้ข้อมูลมาประกอบการดำเนินการทางวินัย เพราะเราต้องให้ความเป็นธรรมครบถ้วน ถ้าพบว่ามีมูลก็จะให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะเดียวกันก็จะรายงานเรื่องนี้ไปยังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อให้พักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคู่กันไป ส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการเอาผิด โดยที่ผ่านมา สพฐ.ได้กำชับมาโดยตลอดว่าไม่ให้มีเหตุการณ์การล่วงละเมิดนักเรียนเกิดขึ้น มีทั้งการออกเป็นนโยบาย ออกเป็นมาตรการ และได้มีการประชุมชี้แจงเน้นย้ำผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารโรงเรียน ว่าเรื่องเหล่านี้จะต้องไม่เกิดขึ้น โรงเรียนต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยสูงสุดทั้งทางร่างกายและจิตใจ ต้องไม่มีการกลั่นแกล้งรังแกกัน ต้องไม่มีเรื่องยาเสพติด แต่เนื่องจาก สพฐ.มีโรงเรียนจำนวนมากเกือบ 30,000 โรง มีครู 500,000 กว่าคน เพราะฉะนั้นในคนจำนวนมาก อาจมีบางคนที่ออกนอกคอกบ้าง แต่หากพบคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว เราก็จะดำเนินการโดยเฉียบขาดทันที ทั้งนี้ ผมได้กำชับไปแล้วว่าต่อไปทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ผู้อำนวยการโรงเรียนและครู ต้องไม่อยู่กับนักเรียนตามลำพัง การดูแลนักเรียนต้องอยู่ในที่เปิดเผย และถ้าผู้ปกครองหรือนักเรียนประสบเหตุก็สามารถแจ้งตรงมาที่ สพฐ.เพื่อรีบดำเนินการแก้ไขตรวจสอบทันที" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี