"นายอำเภอเชียงของ"สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงใน 5 วัน หลังชาวบ้านยื่นถอดถอน"ผู้ใหญ่บ้าน" เหตุปล่อย บ.เอกชนขนถ่านหินลิกไนต์เข้าชุมชน ส่งผลกระทบวงกว้าง ผู้สื่อข่าวลงสำรวจพื้นที่พบน้ำในคูคลองเป็นสีดำ
เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2567 นายหมอก แสนใหญ่ ชาวบ้านหมู่บ้านทุ่งหมด ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้านกว่า 20 คน ได้ยื่นหนังสือต้องทุกข์ต่อ นายอุดม ปกป้องวรกุล นายอำเภอเชียงของ เพื่อขอให้ถอดถอนผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.สถาน เนื่องจากชาวบ้านต่างได้รับผลกระทบจากการที่มีการอนุญาตให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งนำถ่านหินลิกไนต์ที่รับซื้อมากจากฝั่งลาวมาเทกองไว้ในชุมชน ทำให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวาง
"ชาวบ้านลงชื่อร่วมกันขอให้นายอำเภอพิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการกระบวนกาาถอดถอนผู้ใหญ่บ้านออกจากตำแหน่ง หากพบว่าได้มีการจัดทำเอกสารที่เอื้อประโยชน์ส่งผลให้บริษัทเอกชนได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตราย เกิดมลพิษของฝุ่นจากแร่ลิกไนต์ มีกลิ่นรบกวน และยังทำให้น้ำเน่าเสียเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในชุมชน" นายหมอก กล่าว
ด้าน นายอุดม ปกป้องวรกุล นายอำเภอเชียงของ กล่าวว่า ได้จัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สาธารณสุข (สธ.) จังหวัดเชียงราย สธ.อำเภอเชียงของ รพ.สมเด็จพระยุพราชเชียงของ เจ้าหน้าปกครอง เทศบาลตำบลสถาน ได้ข้อสรุปว่า ทางอำเภอเชียงของจะจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงของผลกระทบตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียน โดยได้นำคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่องแนวทางควบคุมการประกอบกิจการ การผลิต สะสม หรือขนส่งถ่านหิน พ.ศ.2560 มาตรวจสอบเบื้องต้นในที่ประชุม
"ผมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ปกครองไปจัดตั้งคณะกรรมการและดำเนินการสอบข้อเท็จจริงภายใน 5 วัน ก่อนจะนำข้อสรุปส่งไปยังนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสถาน เพื่อดำเนินการต่อในการตรวจสอบการดำเนินการของเอกชนว่าปฏิบัติตามคำแนะนำแนวทางของสาธารณาสุขหรือไม่ เป็นอำนาจหน้าที่ของเทศบาลสถานต้องดำเนินการตรวจสอบและปฏิบัติตามคำแนะนำและพิจารณาพักใบอนุญาตฯ หากไม่สามารถดำเนินการตามหลักปฏิบัติได้" นายอำเภอ กล่าว
นายอุดม กล่าวว่า ในส่วนของข้อร้องเรียนให้ถอดถอนผู้ใหญ่บ้านเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ขั้นตอนการออกใบอนุญาตว่าต้องมีการทำประชาคมเป็นข้อปฏิบัติหรือไม่ กำลังตรวจสอบกับสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อพิจารณาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง โดยเฉพาะผลกระทบต่อสุขภาพและชุมชน ซึ่งตนเองได้นัดชาวบ้านที่ร้องเรียนมารับฟังประมาณวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูจุดที่ตั้งของสถานที่ตั้งประกอบกิจการการสะสมหินแร่ลิกไนต์ หลังจากที่ไปขนมาจาก สปป.ลาวมาพักและบด ก่อนคัดขนส่งไปให้ลูกค้า พบว่ามีเพียงสแลมล้อมที่ยังมองเห็น ไม่มีเขตกันชนที่เป็นต้นไม้สูง ไม่มีแนวคันดิน เพียงพอที่จะจัดการฟุ้งกระจาย โดยชาวบ้านบอกว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการขนโดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งมีฝุ่นดำฟุ้งกระจายไปทั่วเส้นทางที่ผ่าน โดยเฉพาะบ้านใหม่ทุ่งหมด และบ้านธาตุทอง และหลังจากชาวบ้านใหม่ทุ่งหมดได้ร้องเรียน ตอนนี้ทางหมู่บ้านข้างเคียง เช่น บ้านโจ้โก้ บางพื้นที่ก็แจ้งว่าได้รับผลกระทบเช่นกัน ก่อนหน้าที่ฝนจะตกจะเห็นได้ว่าถนนที่รถบรรทุกลิกไนต์วิ่งผ่านจะเป็นสีดำวาว เพราะรถที่ขนส่งถ่านหินใหญ่ไม่คลุมผ้าใบ ทำให้ถ่านหินตกลงพื้นถนน และเมื่อฝนตกก็ชะลงคลองส่งน้ำในพื้นที่เกษตร ทำให้ที่นาที่ใช้น้ำบางพื้นที่มีกลิ่นเหม็น และน้ำเป็นสีดำ ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรสัมภาษณ์ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 หลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี