แอดมินเพจ สภ.เมืองลำพูนขอโทษ "ผู้กองพลอย" รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม หลังนำภาพใบหน้า "ผู้กองพลอย" ลงเผยแพร่ในเพจกล่าวหาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยอมรับขาดความรอบคอบ ทำให้ได้รับความเสียหาย ขณะที่ผู้กองสาวให้อภัย พร้อมให้ดำเนินการลบภาพออกจากทุกเพจ
วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 เมื่อเวลา 09.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (บก.ภ.จว.นครพนม) พ.ต.ท.ไพโรจน์ จิตรรังษี สารวัตรสืบสวน (สว.สส.) สภ.เมืองลำพูน พ.ต.ต.สุเมธานนท์ ชัยยา สารวัตรปราบปราม ชุมชนสัมพันธ์ (สวป.ชส.) สภ.เมืองลำพูน เดินทางมาพร้อมกับ ด.ต.สุภาพ ชายพฤกษ์ ผบ.หมู่ งานป้องกันละปราบปราม ปฏิบัติงานหน้าที่เจ้าหน้าที่เทคโนโลยี ประจำ สภ.เมืองลำพูน เพื่อเข้าพบกับ พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ผู้บังคับบัญชาของ ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช หรือ "ผู้กองพลอย" อายุ 31 ปี รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (รอง.สว.ฝอ.ภ.จว.นพ.) ซึ่งถือเป็นผู้เสียหาย จากกรณีเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา แอดมินเพจได้ภาพใบหน้าของผู้กองพลอยลงเผยแพร่ในเพจ "สภ.เมืองลำพูน" พร้อมระบุข้อความว่าเป็นมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองลำพูน หลอกลวงผู้เสียหายว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ทำให้มีผู้หลงเชื่อโอนเงินไปให้จนหมดตัว
หลังภาพและข้อความดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีสถานีโทรทัศน์บางช่อง หนังสือพิมพ์บางฉบับได้นำไปขยายต่อและมีคนเข้ามาคอมเม้นต์ในเชิงลบ กล่าวหาผู้กองพลอยในทางเสียหาย แม้จะมีการโทรศัพท์แจ้งไปยังเพจ สภ.เมืองลำพูน ให้ดำเนินการแก้ไขแล้วแต่ก็ยังไม่มีการลบออกจากเพจดังกล่าว ผู้กองสาวจึงออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของตนโดยแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองนครพนม เพื่อให้แอดมินเพจ สภ.เมืองลำพูน เดินทางมา จ.นครพนม เพื่อขอโทษเป็นเชิงประจักษ์
แอดมินเพจ สภ.เมืองลำพูน ยอมรับว่า ตนผิดพลาดขาดการไตร่ตรอง สาเหตุที่ต้องรีบลงภาพของหญิงที่แต่งกายคล้ายตำรวจ โดยเบื้องต้นไม่ทราบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ระบบ AI นำภาพตำรวจหญิงนายนี้มาทำเป็นภาพเคลื่อนไหวได้สมจริง เพราะต้องการแจ้งเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อ ภายหลังได้ตรวจเช็คข้อมูลอย่างละเอียดจึงรู้ว่ากลุ่มมิจฉาชีพดึงภาพของผู้กองพลอย ออกมาจากสื่อออนไลน์เพราะใช้เวลาว่างเป็นติวเตอร์สอนวิชาการเงิน การบัญชี ฯลฯ ทางออนไลน์จึงนำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางมาขอโทษอย่างจริงใจ
ด้าน ร.ต.อ.หญิง สุจิตรา นครราช หรือ ผู้กองพลอย ยังไม่คลายข้อสงสัย เหตุใดถึงไม่ตรวจเช็คข้อมูลก่อนนำรูปภาพมาเผยแพร่โดยไม่มีการเบลอหน้า ซึ่งทางแอดมินเพจ สภ.เมืองลำพูน ก็ยอมรับที่ตนเองเผลอเรอขาดความรอบคอบ ประกอบกับตนเองป่วยด้วยโรคมะเร็ง จึงอาจมีอาการสมองเบลอผลจากฤทธิ์ยา โดย พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้ให้ข้อคิดในการเผยแพร่ภาพข่าวลงในสื่อโซเชียล เนื่องจากมีการขยายต่อรวดเร็วมาก หากไม่รีบแก้ไขก็จะกระจายออกไปเรื่อยๆ ทำให้คนบริสุทธิ์คนหนึ่งได้รับผลกระทบ ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน ซึ่งทาง สภ.เมืองลำพูน รับปากจะรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยจะมีหนังสือแจ้งไปทางสถานีโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ที่นำภาพข่าวนี้ไปเผยแพร่ให้ลบออกจากเพจอื่นๆ ในโลกโซเชียลทั้งหมด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีชายชาว จ.พังงารายหนึ่งอ้างว่าเป็นผู้เสียหายจากบุคคลที่อ้างตนเป็นตำรวจหญิงประจำ สภ.เมืองลำพูน โทรศัพท์แบบวีดีโอคอลเข้ามา โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน หากบริสุทธิ์ใจให้โอนเงินในบัญชีเข้ามาตรวจสอบ ผู้เสียหายอ้างว่าขณะนั้นทำงานอยู่ จ.กระบี่ ด้วยความกลัวจะตกเป็นผู้ต้องหาจึงโอนเงินในบัญชีที่เหลือเพียง 1,000 บาทไปให้ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อตำรวจหญิงนายนั้นได้อีกเลย เชื่อว่าถูกหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.แห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ พร้อมโทรศัพท์สอบถามไปยัง สภ.เมืองลำพูน โดยมีภาพวีดีโอคอลที่ตนเองคุยกับตำรวจหญิงนายนี้ส่งให้ดูเป็นหลักฐาน ซึ่งแอดมินเพจ สภ.เมืองลำพูน เกรงประชาชนจะตกเป็นเหยื่อจึงรีบนำลงเผยแพร่ทันทีโดยขาดการไตร่ตรอง กระทั่งกลายเป็นเรื่องเพราะเป็นตำรวจจริงที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลย ขอยอมรับในการกระทำในครั้งนี้อย่างจริงใจ โดยทางผู้กองพลอยก็ให้อภัย และให้ดำเนินการลบภาพออกจากทุกเพจ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี