ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.
สภากทม.เห็นชอบขยายเก็บค่าธรรมเนียมขยะใหม่ไปอีก 1 ปีลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
รายงานข่าวการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่สาม (ครั้งที่ 2) ประจำปีพุทธศักราช 2567 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....โดยเป็นการพิจารณา 3 วาระรวดให้ขยายการบังคับใช้อัตราค่าธรรมเนียมฯอัตราใหม่ไปอีก 1 ปี โดยจะประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่ากรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์และภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน และเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือลดและคัดแยกมูลฝอยที่แหล่งกำเนิดอย่างจริงจัง จึงเห็นสมควรปรับปรุงข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอย จึงจำเป็นต้องตราข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครนี้และเห็นควรให้ขยายการเก็บค่าธรรมเนียมขยะออกไปอีก 1 ปีเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน ซึ่งหากคิดเป็นจำนวนเงินหากยังเก็บอัตราเดิม กรุงเทพมหานครจะมีรายได้ 169 ล้านบาท หากเก็บในอัตราใหม่จะได้ประมาณ 676 ล้านบาท หากจัดเก็บค่าธรรมเนียมรายปีจาก 20 บาท เป็น 80 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 4 เท่าในเวลานี้ย่อมส่งผลกระทบกับประชาชนอย่างแน่นอนและไม่เป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนผู้คัดแยกขยะอีกด้วย
สำหรับการปรับปรุงค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนร่วมมือลดและคัดแยกมูลฝอยที่แหล่งกำเนิดอย่างจริงจัง และสอดคล้องกับสภาวการณ์และภาระค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ซึ่งเนื้อหาหลักที่แตกต่างระหว่างปี 2546 กับปี 2562 คือการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจะมีอัตราของปริมาณขยะประกอบด้วย เป็นส่วนสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ที่ทิ้งขยะจำนวนน้อย ไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน หรือผู้ที่คัดแยกขยะต้นทางจากครัวเรือนได้มากกว่า รวมถึงเก็บอัตราค่าธรรมเนียม กับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีจำนวนขยะมากในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งอัตราดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมการเปลี่ยนพฤติกรรมของคนให้คัดแยกขยะอีกทางด้วย ซึ่งการคาดการณ์รายได้จากการจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมใหม่จะทำให้กทม.สามารถจัดเก็บรายได้จากผู้ประกอบการรายใหญ่ได้มากขึ้น จาก166 ล้านบาท เป็น 664 ล้านบาท ซึ่งหัวใจของการจัดเก็บอัตราใหม่นี้ คือจะเก็บเงินกับผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีขยะสู่เมืองในอัตราที่สูงขึ้น และหากใครช่วยคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางก็จะได้ลดอัตราค่าธรรมเนียมอย่างต่อเนื่อง โดยร่างข้อบัญญัตินี้ไม่ได้ตั้งกรอบระยะเวลาไว้เนื่องจากต้องการสร้างจิตสำนึกของประชาชนอย่างต่อเนื่องและสร้างความตื่นตัวให้กับเจ้าหน้าที่ของกทม.ในการให้บริการประชาชน
สุทธิชัย วีรกุลสุนทร สก.จอมทอง
“ปีที่ผ่านมากรุงเทพมหานครยังไม่มีการบังคับใช้ข้อบัญญัติดังกล่าว แต่มีโครงการ “ไม่เทรวม” ซึ่งสามารถลดขยะไปได้กว่า 10% จากความร่วมมือของประชาชน ดังนั้น หากเริ่มการบังคับใช้ข้อบัญญัติ ก็คาดการณ์ว่าจะสามารถลดขยะได้ปริมาณมหาศาลและสร้างรายได้ให้กับกรุงเทพมหานครจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมอีกทางด้วย” ผู้ว่าฯกทม.กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ร่วมอภิปราย ประกอบด้วย นายสุทธิชัย วีรกุลสุนทรสก.เขตจอมทอง นายสัณห์สิทธิ์ เนาถาวร สก.เขตวัฒนา นายพุทธิพัชร์ ธันยาธรรมนนท์ สก.เขตยานนาวา และ นายพีรพล กนกวลัย สก.เขตพญาไท โดยกล่าวว่าค่าธรรมเนียมฯ เดิม ใช้มาตั้งแต่ปี 2546 แก้ไขในปี 2548 และเลื่อนการพิจารณาเพิ่มค่าธรรมเนียมฯ มา 5 ปีแล้วจึงต้องการให้ผู้บริหารกรุงเทพมหานครชี้แจงโดยละเอียดเพื่อให้ทราบข้อดีของการเพิ่มค่าธรรมเนียมฯ ครั้งนี้รวมถึงการพิจารณากฎหมายเพื่อบังคับใช้ควบคุมให้ครัวเรือนและผู้ประกอบการชำระค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะในรูปแบบต่างๆ ให้ครอบคลุมครบถ้วน เนื่องจากส่งผลกระทบกับเรื่องงบประมาณ รายได้ประจำปีของกรุงเทพมหานคร และให้ข้อสังเกตด้วยว่า การเก็บอัตราค่าธรรมเนียมรูปแบบใหม่ถือว่ามีความเหมาะสม และเป็นเรื่องที่ดีเพราะมีการวัดปริมาณขยะในการจัดเก็บเป็นหน่วยลิตรต่อวัน ผู้ที่ทิ้งขยะมากสร้างขยะให้เมืองมากก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราที่สูง แต่ขอฝากให้พิจารณา ในเรื่องการคำนวณส่วนได้-เสีย จากค่าใช้จ่ายในการให้บริการให้ถี่ถ้วน รวมถึงตั้งกรอบระยะเวลาของการสร้างแรงจูงใจจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมฯ ในอัตราดังกล่าวให้ชัดเจน เนื่องจากมีผลกระทบกับงบประมาณด้านการคลัง รวมถึงให้มีการประเมินผล และตรวจสอบประโยชน์ว่าประชาชนคัดแยกขยะจากต้นทางเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี