กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าว จัดงานถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชนอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2567
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด “งานถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ภายใต้โครงการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชน ปี 2567” โดยมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วม ณ แปลงนาสาธิต ม.3 ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพ และมุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวจากการใช้เมล็ดข้าวคุณภาพพันธุ์ดี ซึ่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวในวันนี้ พี่น้องศูนย์ข้าวชุมชนและเกษตรกรจะได้รับความรู้ ความเข้าใจ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อพัฒนาต่อยอด สร้างโอกาสในการเพิ่มคุณภาพผลผลิตและผลตอบแทนจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพและร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อส่งเสริมกิจการด้านเกษตรกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระมหากรุณาธิคุณต่อศูนย์ข้าวชุมชน ที่ทรงหว่านข้าวแปลงนา ศูนย์ส่งเสริมและผลิตพันธุ์ข้าวชุมชน พร้อมกับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมปทุมธานี 1 และธงเครื่องหมายประจำศูนย์
“รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามผลักดันภาคการเกษตร โดยการใช้นวัตกรรมเข้ามาส่งเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มีมากขึ้น และมีคุณภาพ ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมการข้าวดำเนินการ ล้วนเป็นการพัฒนาภาคการผลิตให้มีประสิทธิภาพ สามารถสู้กับข้าวจากต่างประเทศได้ สำหรับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ส่งเสริมให้ภาคการผลิตที่จะนำไปสู่โครงการใช้ปุ๋ยแม่นยำ เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร และเพิ่มคุณภาพข้าว ซึ่งไม่ใช่โครงการเดียวกันกับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หรือโครงการไร่ละ 1,000 บาท ที่รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเกษตรกรในช่วงที่ข้าวราคาตกต่ำ ซึ่งหากโครงการปุ๋ยคนละครึ่งไม่สามารถดำเนินการได้ทันในฤดูการผลิตนี้ ก็จะถือเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อดำเนินการในปีถัดไป และจะพยายามทำให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ เร่งพัฒนาคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ ๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพข้าว ทั้งในเรื่องของกลิ่นและรสชาติ เพื่อทวงความเป็นแชมป์ของไทยกลับคืนมา นอกจากนี้ ยังสนับสนุนข้าวพันธุ์ GI ในการสร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ซึ่งปัจจุบันมีข้าว GI ถึงกว่า 30 สายพันธุ์ ที่เหมาะสมในการปลูกในแต่ละพื้นถิ่น จึงขอยืนยันว่า กระทรวงเกษตรฯ ไม่เคยหยุดนิ่ง และพร้อมที่จะขับเคลื่อนตามนโยบายตลาดนำ นวัตกรรม”สริม’เพื่อเพิ่มรายได้ และมุ่งหวังในการสร้างความมั่นคงให้กับภาคการเกษตรให้เกิดความยั่งยืนต่อไป” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ด้าน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการรณรงค์ให้เกษตรกรได้ตระหนักถึงความสำคัญของการลดต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว โดยจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพการบรรยายความรู้ทางวิชาการ โดยวิทยากรผู้มีความรู้และประสบการณ์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงและการสาธิตนวัตกรรม เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว เช่น เครื่องจักรกลการเกษตร โดรนเพื่อการเกษตร เป็นต้น และมีการจำหน่ายผลผลิตและผลิตภัณฑ์จากข้าว โดยกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี