ยธ.เร่งสำรวจ
ผู้ต้องขังทุกเรือนจำทั่วปท.
รับอภัยโทษวันมหามงคล
โฆษกกระทรวงยุติธรรมเผย “ราชทัณฑ์” สำรวจชื่อผู้ต้องขัง สำหรับกรณีอภัยโทษวันมหามงคล แจง “ทักษิณ” มีสิทธิพ้นโทษก่อนครบพักโทษหรือไม่ ต้องรอดูแนบท้ายกฤษฎีกาอภัยโทษหมู่ ย้ำชัด “การอภัยโทษ” เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ ไม่สามารถคาดเดาได้
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและในฐานะโฆษกกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมืองเปิดเผย เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ถึงกรณีที่เรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ ดำเนินการสำรวจคัดกรองรายชื่อผู้ต้องขังที่มีเกณฑ์อาจได้รับการพระราชทานอภัยโทษ หากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป เนื่องในวันมหามงคลของไทย ว่า สำหรับกระบวนการดังกล่าว ถือเป็นกระบวนการภายในของกรมราชทัณฑ์และได้มีการจัดทำมาอย่างยาวนานในโอกาสวันมหามงคล หรือวาระโอกาสสำคัญต่างๆ โดยเรือนจำและทัณฑสถานแต่ละแห่งจะได้ไปดำเนินการเป็นการภายใน ที่สำคัญ คือ เนื่องจากเป็นเรื่องของพระราชอำนาจโดยเฉพาะ ดังนั้น รายละเอียดการเตรียมการอาจยังไม่สามารถเปิดเผยได้มากนัก แต่เมื่อมีสัญญาณว่าจะต้องดำเนินการ ราชทัณฑ์ก็มีหน้าที่ต้องจัดทำให้ทัน
เมื่อถามว่ากรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ระหว่างการคุมประพฤติ 6 เดือนมีการประเมินกันว่าหากภายในเดือนก.ค.มีพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป อดีตนายกฯซึ่งเป็นบุคคลถูกคุมความประพฤติ ที่เหลือเวลาครบกำหนดพักโทษอีกเพียง 1 เดือน อาจพ้นโทษก่อนกำหนดเลยหรือไม่นั้น นายสมบูรณ์ แจงว่า อดีตนายกฯจะพ้นโทษในเดือนส.ค. ดังนั้น ตนมองว่าเรื่องการอภัยโทษเป็นการทั่วไป ยังเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ เพราะอย่างไรหากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ก็จะต้องไปดูรายละเอียดเงื่อนไขตามบัญชีลักษณะความผิดท้ายพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ว่าอดีตนายกฯ มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์หรือไม่ อย่างไร แต่หากพูดกันวันนี้ก็ยังไม่สามารถตอบได้
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า หลังจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รับโทษตามคำพิพากษา ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษารวมโทษจาก 10 ปี เหลือ 8 ปี และได้รับพระราชทานลดโทษ จากโทษ 8 ปี เหลือโทษ 1 ปี แต่ไม่ได้ถูกคุมขังในเรือนจำเลยแม้แต่วันเดียว ได้พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ จนถึงวันพักโทษ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เห็นได้ว่าคดีที่เกี่ยวกับลูกน้อง สมุน บริวาร และเครือข่ายของระบอบทักษิณรอดพ้นจากคดี และถ้าอยู่ในระหว่างดำเนินคดี ก็ได้รับการประกันตัวกันทุกคน เช่น 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี และอัยการสูงสุดไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจึงยุติไป รวมถึงศาลฎีกาฯ ยกฟ้องคดีจัดจ้างโครงการ “โรดโชว์ สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020” และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่ยื่นอุทธรณ์ คดีจึงถึงที่สุดเช่นกัน
นายเทพไท ระบุอีกว่า 2.คดีของนายจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งหนีคดีอยู่ในต่างประเทศอยู่หลายปี ได้เดินทางกลับมาสู้คดีในประเทศไทย และได้รับการประกันตัวระหว่าสู้คดีเช่นกัน 3.คดีของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง คดีเกี่ยวกับการระบายข้าวโครงการรับจำนำข้าวเอื้อเอกชน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษายกฟ้อง และกำลังลุ้นว่าอัยการสูงสุดจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ดังนั้นช่วงนี้เป็นโอกาสทองของคนในระบอบทักษิณ หลังจากได้จับมือกับกลุ่มอนุรักษนิยมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จึงถือเป็นโอกาสทองของนายทักษิณและบริวารอย่างแท้จริง
“ผมขอแนะนำให้บริวารของคุณทักษิณ ที่หนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ได้รีบกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในยุคสมัยนี้ มีโอกาสชนะคดีมากเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่หนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ถ้าเดินทางกลับมาประเทศไทยในเร็วๆ นี้ เชื่อว่าจะมีอภินิหารทางกฎหมาย จนเกิดปาฏิหาริย์ทางคดี โดยไม่ต้องถูกจำคุกแม้แต่วันเดียว ต้องยอมรับความจริงว่ายุคนี้ชนชั้นนำ ผู้นำทางการเมืองของแต่ละกลุ่ม แต่ละฝ่าย มีการฮั้วอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองกันลงตัว ทำให้หนทางราบเรียบ ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีอุปสรรคใดๆ ทางการเมืองทั้งสิ้น ปล่อยให้กลุ่มมวลชนผู้สนับสนุนของแต่ละฝ่าย สับสน มึนงงกันต่อไป” นายเทพไท ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี