นายกสภาทนายความเจรจาผู้จัดการกองทุนวินาศภัย ติดตามเงินประกันให้ประชาชนที่ป่วยโควิด เผยติดปัญหาใหญ่กองทุนไม่มีเงินชำระหนี้ร่วมแสนล้าน บริษัทประกันล้ม ทั้งแบงก์งดปล่อยกู้อีก
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ห้องประชุมกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) ถ.วิภาวดีรังสิต ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความพร้อมด้วย ดร.วิเชียร รุจิธำรงกุล ผู้ประสานงานผู้เสียหายตามสัญญาประกันภัย เข้าพบ นายชนะพล มหาวงษ์ ผจก.กองทุนวินาศภัย เพื่อติดตามการใช้สิทธิเรียกร้องของผู้เอาประกันภัย และเป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัยโควิด-19
ดร.วิเชียร กล่าวว่า เนื่องจากประชาชนที่ได้รับความเสียหายได้ร้องเรียนกับสภาทนายความโดยแบ่งเป็น2กลุ่ม คือกลุ่มประชาชนที่เป็นเจ้าหนี้ของบริษัทประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ รวม 4 บริษัทประมาณ 5 แสนราย มูลหนี้ค้างประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นเจ้าหนี้บริษัทสินมั่นคงประกันภัย ประมาณ 5 แสนราย มูลหนี้ประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะประชาชนร้องเรียน ยังไม่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต แต่มาถึงวันนี้บริษัทสินมั่นคงประกันภัยได้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้วโดยคำสั่งกระทรวงการคลังและคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.แต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) เป็นผู้ชำระบัญชี ในวันที่ 9 กรกฎาคม 67 ซึ่งมีผลให้กองทุนประกันวินาศภัยจะต้องเข้ามาเป็นผู้ชำระบัญชีบริษัทสินมั่นคงประกันภัย เช่นเดียวกับบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตไปก่อนหน้านี้ รวมจำนวนเจ้าหนี้ที่กองทุนฯ จะต้องชำระ ทั้ง 2 กลุ่มรวมประมาณ 1 ล้านรายเศษ ยอดหนี้ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเฉพาะในส่วนของบริษัทสินมั่นคงฯจากการตรวจสอบเบื้องต้น มีทรัพย์สินเป็นอาคารที่ดินและรถยนต์ตลอดถึงอุปกรณ์สำนักงานที่สามารถนำมาจำหน่ายเพื่อนำเงินบางส่วนได้จำนวน 3,000 ล้านบาทเท่านั้น ยังไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้ ซึ่งกองทุนฯต้องพยายามหาเงินจากช่องทางต่างๆ ตามกฎหมายประกันวินาศภัยเปิดช่องให้ทำได้คือ ขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งเคยขอไปแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ รวมทั้งขอขึ้นเงินสมทบจากบริษัทประกันวินาศภัย ปัจจุบันมีการขึ้นเงินสมทบจากบริษัทประกันวินาศภัย 1 เท่าตัวแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ และจากช่องทางการกู้ยืม ปัจจุบันไม่มีธนาคารใดให้กู้เนื่องจากกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน รวมทั้งกรณีมีแนวความคิดจาก คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.จะขอความร่วมมือจากบริษัทประกันวินาศภัยอื่นๆที่เหลือให้รวมตัวกันปล่อยกู้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนฯ (กปว.) จะออกพันธบัตรกู้ยืม แต่หากทำทุกช่องทางแล้วยังไม่สามารถรวบรวมเงินได้ครบตามยอดหนี้จำนวนมาก อาจจะต้องใช้วิธีการประนอมหนี้ร่วมด้วย
สำหรับการประนอมหนี้กองทุนฯ (กปว.) มีความกังวลในข้อกฎหมายว่ากองทุนฯอาจไม่สามารถขอลดยอดหนี้ได้ตามข้อกฎหมายประกันภัย แต่ในทางกลับกันหากเป็นการเจรจายอมลดยอดให้ โดยความยินยอมของเจ้าหนี้หรือตัวแทนผู้รับมอบอำนาจ น่าจะสามารถทำได้ และทำให้เจ้าหนี้สามารถได้รับชำระหนี้ได้ไม่ต้องรอนานหลายสิบปี
ด้าน นายชนะพล มหาวงษ์ กล่าวว่า วันนี้สภาทนายความมาหารือเบื้องต้น เพื่อหาทางออกให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ปัญหาของกองทุนฯคือ รับเรื่องของบริษัทประกัน 4 แห่ง มีหนี้ค้างรวม 6 - 7 แสนล้านบาท ยังจ่ายไม่หมด เพราะเงินไม่พอ เรามีกำลังจ่ายปีละ 1,200 ล้านบาท ใช้เวลาจ่าย 40 ปี กำลังจะมีปัญหาของบริษัทสินมั่งคงฯ เข้ามาอีก 1 แห่ง มีเจ้าหนี้ทั้งเก่าและใหม่เกือบ 2 ล้านราย รอรับเงินจำนวน 4 - 5 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังมีหนี้ อีก 7 หมื่นล้านบาท ดังนั้น สมมติว่าผู้เอาประกันอายุ 50 ปี จะได้รับเงินตามกรมธรรม์ เมื่ออายุ 130 ปี ใจจริงเราควรจ่ายให้เสร็จใน 2 ปี ยังมีกรมธรรม์ที่ยังเดินอยู่ (คุ้มครองอยู่) แต่บริษัทล้มละลาย ถูกถอนใบอนุญาตไปแล้ว เราจะบอกเลิกสัญญาให้หมดภายในวันที่ 9 กันยายนนี้
"ปัญหาติดตรงที่เงิน ถ้ามีเงินผมจะจ่ายให้หมด เราเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน แต่ประเด็นคือเงินไม่มีและติดขัดข้อกฎหมายบางประการ กับนโยบายรัฐ ขอให้สภาทนายความเป็นคนกลางใช้กลไกไปเจรจากับรัฐบาล กระทรวงการคลังเพื่อขอนโยบาย และหาทางออกที่เหมาะสม ให้กับลูกหนี้" นายชนะพล กล่าว
ดร.วิเชียร กล่าวอีกว่า จะรับไปเจรจากับนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง หาทางแก้ปัญหาให้ลงตัว และเป็นคนกลางเจรจากับผู้เอาประกันภัยโควิด-19 อีกครั้ง ว่าจะพอใจรับเงินสินไหมรายละเท่าใด
ส่วน น.ส.วิศิษฐ์ สิริปิไทสงค์ และ น.ส.ชญาภา จันทรลาเวียง ตัวแทนประชาชนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เราไม่เชื่อมั่นกับระบบประกันภัย เรามีความหวังกับการเรียกร้องครั้งนี้ และอาจต้องใช้สิทธิทางศาล และอยากให้รัฐบาลลงมาดูแลตรงนี้ด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี