วันที่ 17 กรกฎาคม 2567 เวลา 11.00 น. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของชาวต่างชาติ 6 ราย ในโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2567 ว่า ทั้ง 6 ศพ ถูกพบที่ห้อง 502 โดยผลชันสูตรประกอบกับการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน การตรวจสอบกระเป๋าทั้ง 8 ใบ ตลอดจนการตรวจสอบพยานบุคคล ซึ่งรวมถึงญาติของหนึ่งในผู้ตายที่มาให้ปากคำเมื่อคืนที่ผ่านมา สรุปข้อเท็จจริงเบื้องต้นได้ดังนี้
ในห้องที่เกิดเหตุ พบศพทั้งหมด 6 ศพ ศพหมายเลข 1 อยู่ที่ประตูทางเข้า เป็นหญิงสวมเสื้อสีขาว หมายเลข 2 อยู่ภายในห้องนอน สวมเสื้อสีชมพู หมายเลข 3 เป็นชาย หมายเลข 4 เป็นชายโดยพบนอนใกล้ศพหมายเลข 1 บริเวณประตู หมายเลข 5 เป็นหญิง นอนอยู่ที่โต๊ะกินข้าว และหมายเลข 6 เป็นชาย นอนอยู่ข้างกับศพหมายเลข 2 ซึ่งเมื่อตรวจสอบการเดินทางเข้า-ออก และการเข้าพักโรงแรมแห่งนี้ พบว่า
ศพหมายเลข 1 หรือหญิงเสื้อขาว อายุ 46 ปี เดินทางเข้สประเทศไทยครั้งแรกวันที่ 12 ก.ค. 2567 ด้วยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ จากเมืองโฮจิมินห์
โดยมาถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.48 น. และมาเช็คอินเข้าพักห้อง 502 จากนั้นวันที่ 13 ก.ค. 2567 ได้ย้ายไปพักห้อง 708 กระทั่งวันที่ 15 ก.ค. 2567 ได้เช็ตเอาท์ออกจากห้อง 708 และย้ายกระเป่าสัมภาระมาที่ห้อง 502 และพบศพในวันที่ 16 ก.ค. 2567 ,
ศพหมายเลข 2 สัญชาติเวียดนาม เป็นหญิงสวมเสื้อสีชมพู อายุ 47 ปี เดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2567 เวลา 12.56 น. มีประวัติเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย รวม 17 ครั้ง ต่อมาวันที่ 12 ก.ค. 2567 ได้เข้าพักห้องเลขที่ 1215 ต่อมาวันที่ 14 ก.ค. 2567 ย้ายไปพักห้อง 709 จากนั้นวันที่ 15 ก.ค. 2567 ก็เช็คเอาท์และมาอยู่ที่ห้อง 502 ,
ศพหมายเลข 3 เป็นชาย อายุ 37 ปี เข้ามาประเทศไทยวันที่ 12 ก.ค. 2567 เวลา 12.28 น. มีประวัติเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย รวม 11 ครั้ง โดยวันที่ 12 ก.ค. 2567 เข้าพักที่ห้อง 1219 จากนั้นวันที่ 14 ก.ค. 2567 ย้ายไปห้อง 726 จนถึงวันที่ 15 ก.ค. 2567 ก็เช็คเอาท์แล้วไปอยู่ที่ห้อง 502 ,
ศพหมายเลข 4 เป็นชายสัญชาติอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม อายุ 55 ปี สภาพศพสวมเสื้อสีกรมท่า เดินทางเข้าไทยวันที่ 7 ก.ค. 2567 เวลา 09.55 น. มีประวัติเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยเพียงครั้งเดียว เข้าพักโรงแรมวันที่ 12 ก.ค. 2567 ห้อง 1212 ต่อมาวันที่ 14 ก.ค. 2567 ได้ย้ายไปอยู่ห้อง 727 และยังคงอยู่ที่ห้องดังกล่าว กระทั่งไปพบเป็นศพในวันที่ 16 ก.ค. 2567 ,
ศพหมายเลข 5 เป็นหญิงสัญชาติอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม อายุ 56 ปี เดินทางเข้าไทยวันที่ 5 ก.ค. 2567 เวลา 13.05 น. มีประวัติเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย รวม 5 ครั้ง เข้าพักโรงแรมวันที่ 12 ก.ค. 2567 ที่ห้อง 504 ก่อนที่วันที่ 13 ก.ค. 2567 จะย้ายไปห้อง 808 ต่อมาวันที่ 14 ก.ค. 2567 ย้ายมาห้อง 502 หรือห้องที่เกิดเหตุ จนพบเป็นศพในวันที่ 16 ก.ค. 2567 ,
และศพหมายเลข 6 เป็นชายสัญชาติเวียดนาม อายุ 49 ปี เดินทางเข้าไทยวันที่ 12 ก.ค. 2567 เวลา 13.48 น. มีประวัติมาไทยเพียงครั้งเดียว แต่ไม่พบประวัติการเช็คอินเข้าพักที่โรงแรมเหมือนกับอีก 5 ศพ ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับจากญาติผุ้เสียชีวิต พบว่า ศพหมายเลข 6 เป็นสามีของศพหมายเลข 1 โดยเดินทางเข้ามาพร้อมกันในวันที่ 12 ก.ค. 2567 ดังนั้นเมื่อสรุปแล้วพบว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย
พบการเดินทางเข้าประเทศไทย รายแรกวันที่ 4 ก.ค. 2567 เป็นผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 ตามด้วยหมายเลข 5 วันที่ 5 ก.ค. 2567 ต่อมาวันที่ 7 ก.ค. 2567 คือผู้เสียชีวิตหมายเลข 4 และอีก 3 คนที่เหลือ เข้ามาในวันที่ 12 ก.ค. 2567 โดยผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 หมายเลข 6 มาจากเมืองโฮจิมินห์ ส่วนหมายเลข 3 มาจากเมืองดานัง อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบระบบ booking.com พบการแจ้งเข้าพัก 7 คน โดยคนที่ 7 เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 เข้ามาพร้อมกันในวันที่ 4 ก.ค. 2567 แต่ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 โดยมีปลายทางคือเมืองดานัง
ซึ่งตัวละครทั้ง 7 ราย ตำรวจได้รายชื่อครบถ้วน ขณะที่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ พบการเช็คอินที่โรงแรมแห่งนี้ผู้เสียชีวิตทุกคนมาด้วยตนเอง และไม่มีบุคคลแปลกปลอมอื่นใดเข้าไปพักร่วมด้วย ส่วนช่วงวันที่ 14-15 ก.ค. 2567 ผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้น พบเพียงผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายเท่านั้นที่เข้าไปห้อง 502 โดยไม่พบบุคคลอื่นใดอีก กระทั่งตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากทางโรงแรมในวันที่ 16 ก.ค. 2567 เวลา 16.30 น. เนื่องจากเลยกำหนดเวลาเช็คเอาท์ ทำให้พนักงานโรงแรมไปตรวจสอบ แต่เมื่อประตูด้านหน้าล็อกก็ต้องอ้อมไปทางด้านหลัง
โดยเมื่อตำรวจทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้วก็ไม่พบมีบุคคลใดที่เข้า-ออกด้านหลัง ยกเว้น รปภ. ของทางโรงแรมที่เข้าไปตรวจสอบหลังพบประตูด้านหน้าล็อก ซึ่งประตูด้านหลังไม่ได้ล็อก ก่อนจะมาเปิดประตูด้านหน้าเพื่อให้แม่บ้านและหัวหน้า รปภ. เข้าไปตรวจสอบและแจ้งตำรวจ ทั้งนี้ ผู้เช็คอินเข้าพักห้อง 502 ที่เกิดเหตุ คือผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 ก่อนที่อีก 5 รายที่เหลือจะตามเข้ามาภายหลัง ในช่วงกลางคืนของวันที่ 14 ก.ค. 2567 เวลาประมาณ 23.00-00.00 น. แต่ต่อมาก็แยกย้ายกลับไปอยู่ที่ห้องของแต่ละคน.
“วันที่ 15 รุ่งขึ้น หลังจากทั้งหมด หมายเลข 1 หมายเลข 6 หมายเลข 3 หมายเลข 4 และหมายเลข 2 เช็คเอาท์ ต่างคนก็ต่างลากกระเป๋ามาที่ห้อง 502 ผมขออนุญาตนำเรียนไทม์ไลน์ด้วยความชัดเจนจากภาพวงจรปิดว่า ทางห้องโดยผู้ชายคือหมายเลข 4 มีการสั่งอาหารจากทางโรงแรม พนักงานโรงแรมเรามาสอบปากคำแล้ว 2 ปาก คนที่มาส่งอาหาร ยืนยันชัดเจนว่าสั่งอาหารตั้งแต่ 11.42 น. สั่งข้าวผัด 5 จานก่อน สั่งต้มยำกุ้ง 4 ผัดผัก 4 ผัดผักบุ้ง 1 และชาร้อน 2 กา พร้อมแก้วน้ำชา 6 ใบ นี่คือรอบแรก” พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าว
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อไปว่า การสั่งอาหารรอบถัดไป ผู้เสียชีวิตหมายเลข 3 สั่งข้าวผัดเพิ่มอีก 1 จาน และขอให้มาส่งในเวลา 14.00 น. ซึ่งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พนักงานได้เข้าไปส่งอาหารที่ห้อง 502 เวลา 13.51 น. และออกมาเวลา 13.57 น. รวม 6 นาที โดยช่วงที่เข้าไป พบเพียงผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 เพียงคนเดียว โดยมารับอาหารและเครื่องดื่มคือน้ำชา โดยจุดเกิดเหตุ จะเห็นโต๊ะสี่เหลี่ยมอยู่ด้านใน พร้อมกับโต๊ะกลมที่ใช้วางอาหาร ซึ่งพนักงานยืนยันว่า ได้นำอาหารทั้งหมดใส่ถังและนำไปวางในโต๊ะสี่เหลี่ยม ส่วนชุดชาไปวางไว้ที่โต๊ะกลม
โดยพนักงานบอกว่าจะชงชาให้ แต่ผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 บอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจัดการเอง จากนั้นเมื่อเวลา 13.57 น. ที่พนักงานออกมาจากห้องพักแล้ว ในเวลา 14.03 น. ผู้เสียชีวิตหมายเลข 1 ลากกระเป๋ามาที่ห้อง 502 ตามด้วยหมายเลข 6 เวลา 14.04 น. หมายเลข 4 เวลา 14.08 น. จากนั้นเวลา 14.20 น. ผู้เสียชีวิตหมายเลข 5 หมายเลข 4 หมายเลข 1 และหมายเลข 3 ได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน้าห้อง ซึ่งผู้เสียชีวิตหมายเลข 3 เข้ามาที่ห้อง 502 เวลา 09.00 น. และมาอีกครั้งเวลาเกือบ 11.00 น.
โดยสรุปช่วงเวลา 14.12-14.13 น. ผู้เสียชีวิตทั้งหมดได้มารวมกันที่หน้าห้อง ส่วนผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 ก็ได้เข้าไปอยู่ในห้อง ก่อนที่เวลา 14.17 น. ผู้เสียชีวิตกลุ่มที่มาอยู่บริเวณหน้าห้องก็ทยอยกันเดินเข้าไปในห้อง และไม่พบใครเดินออกมาจากห้องอีก อย่างไรก็ตาม ยังคงรอผลชันสูตรศพจากทางนิติเวชอยู่ โดยคาดว่าจะได้ผลออกมาประมาณบ่ายวันที่ 17 หรือเช้าวันที่ 18 ก.ค. 2567 แต่เบื้องต้นพบสารไซยาไนต์ที่แก้วทั้ง 6 ใบ
“ฉะนั้นแล้วในส่วนของฝ่ายสืบสวนสอบสวน ณ ห้วงเวลานี้ ขอยืนยันว่าในการที่เราพบศพทั้ง 6 ศพ แสดงว่า 1 ใน 6 หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟนำถ้วยชากับกระติกน้ำร้อน 2 อัน แล้วก็ถ้วยกานม แล้วก็กาน้ำชา 2 อันที่เห็นในภาพ เข้าไปในห้องในห้วงเวลา 13.57 แล้วออกมา นั่นคือจุดสตาร์ทของเหตุการณ์ครั้งนี้ ว่ามีผู้หนึ่งผู้ใด 1 ใน 6 นั่นแหละที่ทำให้เกิดเหตุเรื่องนี้ขึ้นโดยใช้สารไซยาไนต์” พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี