"พงศ์เทพ"ประชุมร่วมคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรม STARK ครั้งแรก เพื่อป้องกันนักลงทุนได้รับความเสียหาย
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2567 ที่อาคารกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมประชุมคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรม กรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ อาทิ นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พลตำรวจตรี ดร.สมชาติ สว่างเนตร อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท สุทธิศักดิ์ จิตพิมลมาศ ผู้ช่วยเลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย 2 ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์(กลต.)นายยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย และตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญ จำนวน 2 ท่าน ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม
สืบเนื่องจากกรณีมีคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 171/2567 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) (โดยเป็นการยกเลิกคำสั่งกระทรวงยุติธรรม ที่ 158/2567 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567 และแต่งตั้งคณะทำงานฯ ขึ้นใหม่) ความเป็นมาและข้อมูลเบื้อต้นของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) และบริษัท/บุคคอื่น ที่เกี่ยวข้อง และข้อมูล/ข้อเท็จจริง จากตัวแทนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นสามัญ และข้อมูล/ข้อเท็จจริง จากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย พร้อมกันนี้ที่ประชุมได้พิจารณา หัวข้อ/ประเด็นในการศึกษาเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ รวมถึงแนวทางการศึกษาแหล่งข้อมูล และกรอบระยะเวลาการดำเนินการของคณะทำงานศึกษาแผนประทุษ กรรมกรณี บริษัท สตาร์ค คอร์เปอ เรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) ตลอดจนการมอบหมายผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้านต่างๆ
โดย พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ผลการศึกษาในเรื่องนี้สามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องคุ้ม ขครองประชาชน ทำให้ตลาดทุนมีความเชื่อมั่นได้มากขึ้น เราไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าจะเกิดขึ้นควรจะมีการเตือนภัยมากกว่าเดิม และหลังจากการศึกษามีเป้าหมายสูงสุด คือ การหาแนวทางให้ผู้เสียหายได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐ โดยกระทรวงยุติธรรมมี “กองทุนยุติธรรม” เป็นช่องทางการช่วยเหลือโดยไม่ก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมใดๆ และถ้าผลการศึกษากรณีดังกล่าวได้มาตามกรอบระยะเวลา ข้อมูลจากการศึกษาจะรายงานต่อรัฐบาล และทุกภาคส่วนต่อไป
ด้าน นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานคณะทำงานศึกษาแผนประทุษกรรมกรณี STARK กล่าวว่า การทำงานของคณะทำงานฯ มีกรอบระยะเวลา 3 เดือน โดยในตอนต้นกรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ว่ามีการกระทำอะไรที่เกิดขึ้น และเป็นความผิดกฎหมายอะไรบ้าง ในขณะเดียวกันจะพิจารณาว่าการเยียวยาผู้เสียหายต่างๆ ซึ่งขณะนี้ยังมีช่องว่างอยู่มากที่ผู้เสียหายจากการลงทุนในตลาดทุนที่ไม่ได้รับการดูแลเนื่องจากกฎหมายยังครอบคลุมไม่ถึง ตลอดจนมีข้อเสนอแก้ไขกฎหมายต่างๆ และจากบทเรียนกรณีนี้คณะทำงานฯจะศึกษาว่าสามารถประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการดำเนินการอย่างไร และมีแนวทางใดที่สามารถทราบข้อมูลหรือรับรู้ความผิดสังเกตนี้เมื่อเกิดการทุจริตได้ภายในระยะเวลาสั้น เพื่อจะสามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วในการป้องกันความเสียหายแก่ผู้ลงทุนกับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี