อุตุฯเตือนฝนหนัก
ถล่ม51จว.ทั่วไทย
ชัยภูมิฝายแตกอีก
ท่วมไร่นา1พันไร่
กรมอุตุฯเตือน 51 จังหวัดฝนตกหนัก ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วน จ.หนองคาย ฝนกระหน่ำส่งผลให้น้ำระบายไม่ทัน ท่วมไร่นาชาวบ้าน ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ระทมหนัก ฝนถล่มทำน้ำป่าทะลักซัดฝายน้ำแตกอีกจุด ท่วมพื้นที่เกษตรกว่าพันไร่ ด้าน จ.ขอนแก่น น้ำท่วมถนนหลายสาย จราจรอัมพาต
เมื่อวันที่ 18กรกฎาคม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ อ่าวไทย ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.เลย ชัยภูมิ หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานีภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรีภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตรภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.ระนอง พังงา และภูเก็ต ตั้งแต่ จ.ภูเก็ตขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.กระบี่ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ส่วน กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ70ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดฝนตกอย่างหนักต่อเนื่องตั้งแต่คืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้า กินบริเวณกว้าง ท้องฟ้ายังปกคลุมไปด้วยเมฆฝน มีปริมาณน้ำฝน วัดได้ที่ 121.5 มิลลิเมตร โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้เร่งระบายน้ำจากลำห้วยโมงลำน้ำสาขาแม่น้ำโขงลงสู่แม่น้ำโขง ซึ่งระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย อยู่ที่ 4.26เมตร สามารถรองรับน้ำได้อีก และน้ำในลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง ยังรองรับปริมาณน้ำฝนทั้งใน จ.หนองคายและอุดรธานีซึ่งอยู่ติดกันได้
จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่ายังมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีกหลายวัน ทำให้ต้องประเมินสถานการณ์น้ำและระบายน้ำให้ทันท่วงที อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันติดต่อกันทำให้เกิดน้ำท่วมที่นาของชาวบ้านแล้ว โดยที่บ้านป่าสัก ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ พบว่าเริ่มได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก จากการสำรวจเบื้องต้นพบน้ำท่วมทุ่งนา ซึ่งชาวนาได้ปักดำข้าวไว้แล้ว
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ วันเดียวกัน ภายหลังฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าทะลักจนฝายใหม่แตกอีกลูก โดยลูกแรกแตกในพื้นที่หมู่บ้านซับสายออ ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านโนนส้มกบ หมู่ 3 ต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรแบบฉับพลัน เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ น.ส.นันทิดา ภูมาศ นายกอบต.บ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ แจ้งเตือนชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ หลังจากมวลน้ำจากเทือกเขาภูแลนคา และเขาผาแดง ไหลมาบรรจบกันที่ฝายใหม่ในหมู่บ้านโนนส้มกบ ต.บ้านแก้ง ทำให้เกิดฝายรับน้ำไม่ไหวและแตกทะลัก โดยมวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมถนนหลายสาย รวมถึงพื้นที่การเกษตร นาข้าว ไร่อ้อย และพืชผลการเกษตรอื่นๆ ได้รับความเสียแล้วกว่า 1,000ไร่ และมวลน้ำยังคงไหลเชี่ยวจึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดพร้อมกับรายงานให้ทางจังหวัดรับทราบ
ที่ ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีฝนตกอย่างหนักทั่วพื้นที่ ตลอดวันนับตั้งแต่ช่วงเช้า ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองศิลา ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่อย่างฉับพลันซึ่งทางนายประจวบ รักแพทย์ ปลัดจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบและช่วยเหลือประชาชนบริเวณถนนกสิกรทุ่งสร้าง เชื่อมต่อ บ้านหนองไผ่-ศิลา ตัดออกถนนมิตรภาพ มีน้ำทะลักท่วมสูง 50เซนติเมตร บางช่วงรถทุกชนิดไม่สามารถผ่านไปได้ จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่สูบน้ำระบายน้ำและเส้นบ้านเอื้ออาทรศิลาถึงแยกตลาดหนองไผ่ศิลา เขตเทศบาลเมืองศิลา ครอบคลุมระยะทางประมาณ 800 เมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี