ฝ่ายปกครองอำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์ สนธิกำลังตำรวจ สภ.หินเหล็กไฟ บุกจับ"โชเฟอร์สิบล้อ"ผันตัวค้ายาบ้า อ้างตกงานไม่มีเงิน จึงรับยาจากเพื่อนมาขายให้กลุ่มวัยรุ่น ยึดของกลางฝังใต้ดินกว่าพันเม็ด จ่อขยายผลสาวต้นตอ นายอำเภอเผยพร้อมบูรณาการขานรับนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน ภายใต้กลยุทธ์ "ปลุก เปลี่ยน ปราบ"
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอคูเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย ฝ่ายปกปกครองอำเภอ ร่วมกับตำรวจ สภ.หินเหล็กไฟ ภายใต้การอำนวยการของ นายมนูญศักดิ์ นามประเทือง นายอำเภอคูเมือง และนายธนวัต พรมคำน้อย ปลัดอำเภอ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หัวหน้าชุดจับกุม ได้สนธิกำลังเข้าทำการจับกุม นายณัฐพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) ภายในบ้านไม่มีเลขที่ พื้นที่ ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ หลังสืบทราบว่า นายณัฐพงศ์ มีพฤติกรรมทั้งเสพและค้ายาเสพติดให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ โดยจะมีวัยรุ่นเข้า - ออกบ้านเป็นประจำเกือบทุกวัน
หลังจากเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าทำการจับกุม นายณัฐพงศ์ ก็รับสารภาพว่า ได้เสพยาเสพติด และขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่จริง โดยรับยาบ้ามาจากเพื่อน แล้วนำไปขายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่น ในราคาเม็ดละ 50 บาท จากนั้นได้พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นจุดที่นำยาบ้าซุกซ่อนไว้จำหน่าย คือ กระเป๋าที่ห้อยไว้กับกิ่งไม้ มีถุงพลาสติกสีน้ำเงิน 1 ถุง และถุงพลาสติกสีชมพู 1 ถุง มียาบ้าอยู่ 400 เม็ด และพบยาบ้าที่ใส่ในกระเป๋าฝังซุกซ่อนไว้ใต้ดินบริเวณรั้วบ้านอีก 698 เม็ด ทั้งนี้ ยังพบปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ผู้ต้องหาอ้างว่า เพื่อนไม่มีเงินจ่ายค่ายาบ้าจึงเอาปืนมาวางค้ำประกันไว้ จากนั้นชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายณัฐพงศ์ พร้อมของกลางยาบ้า ไปยังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอคูเมือง เพื่อสอบถามรายละเอียด
จากการสอบสวน นายณัฐพงศ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้รับยาบ้ามาจากเพื่อน แล้วนำมาจำหน่ายต่อให้กับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ในราคาเม็ดละ 50 บาท จากปกติประกอบอาชีพเป็นโชเฟอร์ขับสิบล้อบรรทุกอ้อย แต่ช่วงนี้ปิดหีบจึงไม่มีงาน ไม่มีรายได้ดูแลครอบครัว จึงตัดสินใจรับยาบ้าจากเพื่อนมาขาย
หลังสอบถามรายละเอียดแล้ว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา "มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่"
ด้าน นายอำเภอคูเมือง กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายปกครอง และตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมปราบปรามทั้งผู้ค้า ผู้เสพ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลมีนโยบายให้บูรณาการแก้ปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 90 วัน ภายใต้กลยุทธ์ "ปลุก เปลี่ยน ปราบ" โดยให้ทุกพื้นที่ค้นหาเอ็กซเรย์ทั้งกลุ่มผู้เสพ ผู้จำหน่าย และกลุ่มที่จะต้องเข้ารับการบำบัด ซึ่งพื้นที่ อ.คูเมือง ก็ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อจับกุมปราบปรามบำบัดและฟื้นฟูควบคู่กัน ซึ่งเคสที่จับกุมครั้งนี้ก็ได้รับการแจ้งข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ จนนำไปสู่การจับกุม ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้เน้นย้ำให้ดำเนินการกวาดล้างปราบปรามควบคู่กับการบำบัดฟื้นฟูอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และด้วยความห่วงใยของสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ก็ได้มีการทำกิจกรรมเดินวิ่งปั่นปลูกเพื่อระดมทุน สำหรับดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรด้วย เชื่อว่าหากดำเนินการอย่างต่อเนื่องปัญหายาเสพติดจะลดลง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี