เกมโอเวอร์ “แก๊งไก่แจ้น้ำก่ำ” ฉายานักบินสองฝั่งโขง ตชด.รวบพร้อมยาบ้า 3.8 แสนเม็ด สารภาพรับจ้างครั้งละหมื่น คอตกเข้าซังเตชดใช้กรรม

วันที่ 20 กรกฎาคม 2567 ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 (ผกก.ตชด.23) มอบหมายให้ ร.ต.อ.สมควร เบญจมาตร รักษาราชการแทน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 235 (รรท.ผบ.ร้อย ตชด.235) ร.ต.อ.เสถียร พัฒนะโชติ หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าวฯ (หน.ชปข.ร้อย.ตชด. 235) ร่วมกับชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด และทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง แถลงการณ์จับกุม นายสงกรานต์ หรือไก่แจ้ (สงวนนามสกุล)  อายุ 37 ปี พร้อมเพื่อนอีก 1 คน คือ นายอภิเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ทั้งคู่เป็นชาวบ้าน  ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 388,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน  รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้า เวฟ 125 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน

โดยเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มานาน เนื่องจากนายไก่แจ้ตั้งตนเป็นหัวหน้าแก๊ง มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนได้รับฉายาว่านักบินสองฝั่งโขง ทำหน้าที่ดูแลประสานงาน ลำเลียงยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งเข้าไปพื้นที่ตอนใน แต่เจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอในการจับกุมตัว จนกระทั่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่า ขบวนการค้ายาบ้าข้ามชาติ เตรียมลำเลียงยาเสพติดเข้ามาบริเวณริมฝั่งน้ำโขง บ้านคับพวง หมู่ 4 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ชุดปฏิบัติการ ตชด.235 จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง พบนายไก่แจ้หัวหน้าแก๊ง ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน กำลังลำเลียงยาบ้าบรรจุในกระสอบปุ๋ย ขนขึ้นรถยนต์เก๋งของกลาง เตรียมส่งเข้าพื้นที่ตอนใน จึงจู่โจมเข้าจับกุมได้ตัวนายไก่แจ้กับนายอภิเดชได้คาของกลาง ส่วนเพื่อนอีกคนอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้หวุดหวิด  ซึ่งนายไก่แจ้สารภาพ ว่า รับจ้างขนยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง โดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 10,000 บาท

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ได้เพิ่มมาตรการความเข้มข้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อสกัดกั้นป้องกันปราบปรามต่อเนื่อง ในพื้นที่ชายแดนนครพนม เนื่องจากปัจจุบันมีการทะลักเข้ามาทางแม่น้ำโขงบ่อยมาก เพราะพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ มีอุปสรรคในการลำเลียง ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติด หันมาใช้เส้นทางลำเลียงเข้าพื้นที่ชายแดนอีสาน รวมถึง จ.นครพนมมากขึ้น