■■ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมาก สำหรับประเด็นญัตติกระทู้ถามกันในสภาฯของ สก.ที่ก่อนจะมีการบรรจุญัตติให้ดำเนินไปตามจุดประสงค์ของ สก.ที่พบเห็นปัญหา หรือข้อข้องใจประเด็นปัญหาใดๆก็สามารถตั้งกระทู้ถามได้ แต่ปรากฏว่ากระทู้ถามดังกล่าว ประธานสภาฯตั้งแต่ชุดที่แล้วถึงปัจจุบันกลับสั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นพิจารณาก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาซักถาม โดยไม่จำเป็นต้องลงมติ และครั้งนั้นเรื่องนี้ดูเหมือนจะถกกันหนักมากถึงความสมควรหรือไม่สมควรกระทำของประธานสภาฯ ซึ่ง สก.หนึ่งในจำนวนที่แลเห็นความผิดปกติไม่ชอบมาพากล คือ นายนภาพล จีระกุล สก.เขตบางกอกน้อย ผู้มีความละเอียดในเรื่องข้อบังคับสภา กทม. ได้ตั้งคำถามถึงประธานสภาฯชุดที่ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์เป็นประธานสภาฯ อยู่ในขณะนั้นว่าเหตุใดถึงกระทำเช่นนั้น เพราะญัตติของ สก.ถือเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว ซึ่งคำตอบ คือ ข้อบังคับไม่ได้กำหนดเขียนห้ามเอาไว้ สภาฯจึงมีสิทธิ์ดำเนินการได้ ขณะที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยหรือเห็นต่างมองว่า เมื่อข้อบังคับสภาฯไม่กำหนดเอาไว้แล้วประธานสภาฯมีอำนาจบาตรใหญ่อะไรจึงสั่งดำเนินการ เนื่องจากประธานสภาฯต้องทำหน้าที่ตามข้อบังคับตามครรลองของกฎหมาย การจะใช้อำนาจว่ายิ่งใหญ่หรือลำพองในอำนาจไม่ได้ต้องปฏิบัติ หรือกระทำไปตามข้อบังคับ...
■■ ที่สำคัญการตั้งคณะกรรมการใดๆ ขึ้นมาโดยมีสมาชิกสภา กทม.เข้าไปเป็นคณะกรรมการฯนั้น คณะกรรมการฯทุกคนก็มีเบี้ยการประชุม ดังนั้นการเอาเงินภาษีประชาชนไปใช้ในทิศทางไม่ถูกต้องย่อมผิดกฎหมายเรื่องนี้สามารถร้องเรียน ป.ป.ช.พิจารณาได้เช่นกัน...
■■ ต้องบอกว่าวันนั้นความขัดแย้งข้างต้นรุนแรงพอสมควร จนถึงกับมีการขอร้องกันอื้ออึง เพราะหากสิ่งที่กระทำผิดกฎหมายประธานสภาฯก็มีปัญหา และเมื่อสิ้นสมัยประธาน วิรัตน์ มีนชัยนันท์ ก็มาถึงสมัยที่ นายจอห์น คานที (นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา) ผู้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ลั่น ซึ่งพรรคเพื่อไทยฉายาจอมตระบัดสัตย์ อ้างเอาคนรุ่นใหม่ ที่ถูกเปรียบเหมือนพระบวชใหม่ได้แค่ครึ่งพรรษาเป็นประธานสภาฯ การตั้งคณะกรรมการดังกล่าวก็ยังยึดถือและปฎิบัติกันเหมือนเดิม หัวใจสำคัญไม่ใช่แค่การตั้งคณะกรรมการวิสามัญขึ้นมากลั่นกรองญัตติของ สก.เท่านั้น แต่มองไปถึงการใช้เงินภาษีประชาชนผิดกฎหมาย ถ้าสิ่งที่เป็นประเด็นสุกดิบมีความผิด แล้วประธานสภาฯ จอห์น คานที ยังดื้อดึงเดินตามวิธีจารีตผิดๆ เดิมๆ ที่ประธานคนเก่าวางไว้ หรือถือปฏิบัติ ประเภทรู้แล้วไม่ยุติหรือแก้ไข แน่นอนกฎหมาย 157 อาจต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมันเป็นเรื่องการนำเงินภาษีประชาชนไปใช้เกินขอบเขตอำนาจของประธานสภาฯ ที่สำคัญถ้าการกระทำถูกสรุปว่าผิด “มรดกบาป” ก็ต้องย้อนหลังไปเมื่อครั้งที่ นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ เป็นประธานสภาฯด้วย หรือหากมีการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.แล้ว โดย ป.ป.ช.การันตีว่าใช้ได้ ก็ว่ากันไปตามกรอบนั้น ทว่ากระบวนการร้องเรียนก็ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ตามกรอบของกฎหมายที่เหนือกว่า ป.ป.ช.ดังนั้นงานนี้มองกันอย่างละเอียดแล้ว สก.หลายท่านเห็นตรงกันประธานสภาฯมีหนาว...■■
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี