เหยื่อค้ามนุษย์ชาวไทยหลบซ่อนตัวจากแก๊งจีนเทามานานกว่า 20 วัน ดื่มแต่น้ำก๊อกประทังชีวิต ไม่มีข้าวตกถึงท้องเกือบ 3 สัปดาห์ แม้จะยังคงรอคอยการช่วยเหลือจากทางการไทยแต่เผื่อใจยอมรับว่าหากยังปล่อยเวลาให้นานกว่านี้อาจพบจับตัวแล้วถูกซ้อมทรมาน
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง นายเอ (นามสมมุติ) คนไทยเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ถูกแก๊งจีนเทาหลอกไปทำงานที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา และถูกขายต่อส่งตัวไปยังเมืองกันดาลชายแดนกัมพูชาติดเวียดนาม และหลบหนีมานานกว่า 20 วันโดยรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือนำตัวกลับประเทศไย
“ผมไม่ได้กินข้าวเลย ไม่ได้ติดต่อกับคนที่นี่ เคยมีน้องคนนึงที่คอยช่วยเหลือแต่ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อเพราะน้องเขาก็จะเป็นอันตรายเหมือนกัน” นายเอ กล่าว
นายเอ กล่าวด้วยว่า ไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยของห้องที่ซ่อนตัวอยู่ทุกวันนี้จะถูกพบเมื่อไหร่
“ผมตีเวลาเลยว่าเต็มที่ก็แค่ 3-4 วัน หน่วยงานที่บอกว่าจะช่วยก็ยังคงเงียบ คุยกับผู้ประสานงานได้ข้อสรุปว่าต้องรอให้ทูตจีนมาช่วย ต้องใช้เวลาอีก” นายเอ กล่าว
เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเอถูกหลอกให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปตและไม่ยอมทำงานให้กลุ่มจีนเทา โดยพยายามหลบหนีหลายครั้งจนทำให้แก๊งคนจีนทำร้ายร่างกายแล้วขายนายเอให้กับออฟฟิศคอลเซ็นเตอร์อื่น ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนเวียดนาม
“ห้องที่ผมซ่อนตัวอยู่เป็นห้องว่างมีไฟ มีน้ำ ชั้นที่ผมอยู่มีห้องว่างอยู่แค่ 2 ห้อง ฝั่งที่ผมอยู่น่าจะเคยเอาไว้ขังพวกติดยาเพราะมีบ้องกัญชา มีอุปกรณ์ เศษๆเหลืออยู่ ห้องที่ผมหลบซ่อนตัวนี้ผมจะใช้อยู่เฉพาะตอนกลางคืน ส่วนกลางวันผมจะอยู่ตามบันได” นายเอ กล่าว
นายเอกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่ตนหลบหนีมาซ่อนตัว เช้าตื่นมาล้างหน้า มีเสื้อผ้าใช้เปลี่ยนเหลืออยู่ 2 ชุด ถ้าจะซักผ้าก็ต้องตากแอบๆหลังห้อง ก่อนจะขึ้นไปอยู่ตรงบันไดที่ปลอดภัยกว่าเพราะปิดประตูทางออกไว้ไม่ให้คนผ่าน ตกเย็นก็จะเข้าห้องที่ไว้ใช้หลบซ่อนและนอนหลับ
“ก่อนนี้จะมีตึกให้ผมหลบ 2 ตึก แต่ตอนนี้อีกตึกนึงมีคนเข้าอยู่เต็มหมดแล้ว ส่วนตึกนี้ทีแรกที่เข้ามาหลบมีห้องว่าง 3 ห้อง เพิ่งมีคนเข้ามาอยู่ใหม่ 1 ห้อง ผมก็เลยต้องไปอยู่อีกห้องที่ว่าง อยู่ประมาณ 6-7 วัน ก่อนจะหลบมาอยู่ที่ห้องนี้ล่าสุด” นายเอ กล่าวและว่า ส่วนสัญญาณอินเตอร์เนตนั้น นายเอให้ญาติที่ไทยเติมเงินในซิมสัปดาห์ละ 1.5 ดอลล่าร์ โดยน้องสาวที่ประเทศไทยเป็นคนเติมให้ และน้องได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆของไทย รวมทั้งได้แจ้งความไว้แล้ว แต่ไม่มีหน่วยงานใดให้ความช่วยเหลือ
นายเอ กล่าวว่า เรื่องการหลบหนีนั้นแม้จะหาช่องทางอยู่เสมอ แต่บริเวณที่อาศัยละแวกนั้นไม่มีรถประจำทางผ่าน และไม่แน่ใจว่าจะสามารถหลบหนีสายตา รปภ. นับร้อยคนได้หรือไม่ หรือหนีได้แล้วจะไปที่ไหนอย่างไรต่อ
“ออกไปถ้าคนจีนพบระหว่างหนี ผมคิดว่าถ้าไม่โดนขังมืดก็ถูกจำหน่ายไปอยู่ที่อื่น เหมือนที่เคยถูกจำหน่ายมาจากปอยเปต อีกอย่างผมไม่ได้กินข้าว ตอนนี้ร่างกายไม่ไหวแล้ว ปวดท้องเวียนหัว “ นายเอ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานที่ประสานความช่วยเหลือคนไทยเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ในกัมพูชากำลังหากรณีคนจีนที่ถูกกลุ่มคอลเซ็นเตอร์หลอกหรือทำร้ายร่างกายเพื่อแจ้งให้ทูตจีนดำเนินการเข้าไปล้างบางจีนเทา ซึ่งจะทำให้เหยื่อชาวไทยรายนี้ได้รับความช่วยเหลือให้ออกมาด้วย โดยมีคนไทย 200-300 คนทั้งที่ถูกหลอกและสมัครใจเข้าไปทำงานในแหล่งอาชญากรรมแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีชาวต่างชาติอีกจำนวนมากโดยเฉพาะชาวจีนและเวีนดนาม
อนึ่งเมื่อคืนวันที่ 19 กรกฎาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ผ่าน X (ทวิตเตอร์) ระบุว่า “เมื่อเวลา 20:30 น. ที่ผ่านมา ผมได้โทรศัพท์หารือท่านนายกรัฐมนตรี ฮุน มาแนต ของกัมพูชา ในประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเรามีความเห็นตรงกันที่จะมีการปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของทั้งสองประเทศ ร่วมกันหาแนวทางและปราบปรามให้เห็นผลภายใน 60 วัน และผมพร้อมที่จะบินไปเพื่อที่จะหาทางออกเรื่องนี้ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปครับ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี