สมความรอคอยชาวอุดรเฮลั่น!!!! ภูพระบาทเป็นมรดกโลกลำดับที่ 5 ของประเทศลำดับที่ 2 ของจังหวัด สุดดีใจจังหวัดเดียวมีถึง 2 แห่ง ขณะที่ชาวบ้านไทพวนที่ภูพระบาท อ.บ้านผือ ทุกคนสุดดีใจภูพระบาทเป็นมรดกโลกแล้ว บางคนนอนไม่หลับ รอคอยมาถึง 20 ปี หวังมรดกโลกแห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้รู้จักประวัติศาสตร์ 3,000 ปีวัฒนธรรมชุมชนมากขึ้นและกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในพื้นที่ได้ฯ
วันนี้ (27 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศของชาวอุดรต่างลุ้นให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ที่อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เป็นมรดกโลก โดยที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท บ้านติ้ว ต.เมืองพาน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี นางเทียบจุฑา ขาวขำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายอำเภอ ส่วนราชการ และประชาชนชาวอ.บ้านผือ ต่างพากันนั่งดูถ่ายทอดสดที่มีการประชุมพิจารณาขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” เป็นมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 46 จากกรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ลุ้นอย่างหายใจรดต้นคอ และอย่างใจจดใจจ่อ เพื่อรอทางยูเนสโกประกาศรับรองให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นมรดกโลก และเมื่อเวลา 13.00 น.หลังจากประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นมรดกโลก ทุกคนต่างพากันเฮลั่นเสียงดังกึกก้องทั้งภูพระบาทเลยทีเดียว จากนั้นทุกคนเดินเท้าเปล่า ยังไปหอนาง ซึ่งเป็นหินประวัติศาสตร์และร่วมถ่ายรูปเพื่อแสดงความยินดี
นางเทียบจุฑา ขาวขำ ส.ส.เพื่อไทย เปิดเผยว่า ในฐานะชาวอ.บ้านผือ รู้สึกดีใจกับพี่น้องชาวไทยและพี่น้องชาวจ.อุดรธานี โดยชาวอ.บ้านผือ พื้นที่ตรงนี้ถือเป็นพื้นที่ประวัติศาตร์มากว่า 3,000 ปี ที่นี่มีหอนางที่มีเรื่องราวของนางอุษาและหินประวัติศาสตร์ เชื่อว่าหลังจากยูเนสโกประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทเป็นแหล่งมรดกโลก จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมากระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างดี
ขณะที่นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบ้านผือ กล่าวว่า รู้สึกดีใจกับพี่น้องชาวอ.บ้านผือได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ 2 ของจ.อุดรธานี นอกจากบ้านเชียงแล้วก็มีที่นี่คืออุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ถือว่าวันนี้เป็นที่ชาวอ.บ้านผือรอคอยมานานกว่า 20 ปี พี่น้องชาวอ.บ้านผือดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากนี้ไปทางจังหวัดฯ ก็จะจัดงานเฉลิมฉลองหลังจากภูพระบาทแห่งนี้ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกแห่งที่ 2 ของจ.อุดรธานี สำหรับพื้นที่ตรงนี้ลานหินและป่า สมัยก่อนพื้นที่เป็นวัดและสถานที่ประกอบพิธีกรรม ที่เห็นอยู่ด้านหลังเป็นหอนาง ซึ่งมีเรื่องราวของนางอุษา ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย
นายเอกพล ศรีทอง นายกอบต.เมืองพาน กล่าวว่า ตนเองในฐานะคนบ้านผือมาตั้งแต่กำเนิด สมัยเด็กๆ เคยมาเดินเล่นในพื้นที่ตรงนี้ วันนี้ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจและดีใจของชาวอ.บ้านผือเป็นอย่างมากที่ภูพระบาทได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกแห่งที่ 2 ของจ.อุดรธานี อย่างตนเองและพี่น้องชาวต.เมืองพาน เมื่อคืนพากันนอนไม่หลับเลยพากันรอลุ้นวันนี้ พอมาวันนี้ตื่นแต่เช้ารีบมาที่ภูพระบาท มากับพี่น้องชาวอ.บ้านผือ วันนี้นั่งดูถ่ายทอดสดน้ำตาแทบจะไหลเลย ทุกคนใจจดใจจ่อเพื่อรอถึงวันนี้ในที่สุดก็ฝันเป็นจริง ปลื้มใจมากไม่คิดว่าอุทยานประวัตศาสตร์ภูพระบาทจะได้รับเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกอีกแห่งของจังหวัดอุดรธานีแล้ว ใจหนึ่งก็คิดเหมือนกันหากภูพระบาทไม่ได้เป็นมรดกโลกคงรอไปอีกนาน แต่ผลออกมาแล้วทุกคนชาวอ.บ้านผือดีใจเป็นอย่างมาก ต่อไปสถานที่แห่งนี้ก็จะเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก
ส่วนนางทิวาพร แสงวิจิตร อายุ 57 ปีและนางพเยาว์ จันทรมงคล อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นชาวไทพวนที่ต.เมืองพาน พร้อมใจกันเปิดเผยว่า ในนามของคนอ.บ้านผือ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทได้รับเลือกเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของจ.อุดรธานี พวกเราดีใจจนน้ำตาจะไหล เพราะเรารอมานานกว่า 20 ปี ทุกคนวันนี้แต่งชุดไทพวนซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนเพื่อมาร่วมแสดงความยินดี พอได้ยินว่าภูพระบาทได้เป็นมรดกโลก ทุกคนเฮลั่นได้ยินเสียงกึกก้องทั่วภูพระบาทเลย พวกเราเป็นชุมชนชาติพันธุ์ดั้งเดิมของที่นี่และชาวอ.บ้านผือ ต่อไปก็คิดว่า อ.บ้านผือเราแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอ.บ้านผือแต่ก่อนได้ชื่อว่า ข้าราชการหน่วยงานไหนไม่มีใครอยากย้ายมา แต่พอมาอยู่แล้วไม่อยากกลับ เพราะคนที่นี้เป็นคนมีน้ำใจ ต่อไปนับจากนี้ไปคิดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่เยอะมากขึ้นทำให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
ส่วนบรรยากาศที่พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นสถานที่การถ่ายทอดสดผ่านจอ LED การประชุมพิจารณาขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” เป็นมรดกโลก บรรยกาศของชาวจ.อุดรธานีเป็นไปอย่างคึกคัก โดยสถานที่จัดงานมีการติดตั้งจอ LED ขนาดใหญ่พร้อมติดตั้งเครื่องเสียงให้ได้รับชมรับฟังได้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้มาร่วมฟังได้รับชมรับฟังการประชุมตั้งเริ่มจนถึงการพิจารณาของประเทศไทย หลังองค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ประกาศให้อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในชื่อ ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา สมัยทวารวดี คนที่มาร่วมงานต่างพาโฮร้องแสดงความดีใจพร้อมโบกธงชาติไทย ก่อนฝนจะโปรยปรายลงมาอย่างหนักคล้ายจะร่วมยินดีที่ภูพระบาทเป็นมรดกโลก
ทั้งนี้ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย โดยเป็นแหล่งมรดกโลกลำดับที่ 8 และแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 2 ของ จ.อุดรธานี ต่อจากแหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก เมื่อ พ.ศ.2535 อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ภายใต้คุณค่าโดดเด่นอันเป็นสากล ได้แก่ การรักษาความเป็นของแท้และดั้งเดิมของแหล่งวัฒนธรรม สีมาหินสมัยทวารวดี และเป็นประจักษ์พยานที่ยอดเยี่ยมของการสืบทอดของวัฒนธรรมดังกล่าวที่ต่อเนื่องอย่างยาวนานกว่าสี่ศตวรรษ โดยเชื่อมโยงเข้ากับประเพณีของวัดฝ่ายอรัญวาสีในเวลาต่อมา
นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า ภายหลังภูพระบาทประกาศเป็นมรดกโลกหลังจากนี้จังหวัดอุดรธานีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองในโอกาสต่อไป โดยเราจะมีการร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันหารือกันอีกครั้ง ที่สำคัญต้องขอแสดงความยินดีกับจังหวัดอุดรธานีที่เป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีมรดกโลก 2 แห่ง คือ มรดกโลกบ้านเชียง และล่าสุดมรดกโลกภูพระบาท ซึ่งมรดกโลกภูพระบาทนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่จะศึกษาโบราณที่มีอายุกว่า 3,000 ปี เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นดีที่จะให้นักท่องเที่ยวประชาชนได้ค้นหาประวัติศาสตร์ แหล่งมรดกโลกจุดนี้เป็นแหล่งมรดกโลกที่สมบูรณ์ จึงขอเชิญชวนให้มาเที่ยวกันเยอะๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี