วิบากกรรมคดีทุจริต! ป.ป.ช.ตรัง เปิดเผยผลคำพิพากษาศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 คุกรวด 3 นักการเมืองท้องถิ่น รายแรกอดีตนายก อบต.เขาขาว คดีที่ 1 ทุจริตขุดลอกคลอง อุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นคุก 3 ปีไม่รอลงอาญา คดีที่ 2 ทุจริตโครงการบุกเบิกถนน คุกอีก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนรายที่ 2 อดีตนายกเทศมนตรี ต.ท่างิ้ว ทุจริตระบบน้ำประปาตำบลคุก 5 ปี พวกโดนด้วยอีก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ยังรอผลคำพิพากษาอีก 2 คดี ส่วนรายสุดท้าย นายก อบต.เขาไม้แก้ว เอื้อเอกชนรุกป่าชายเลน คุก 2 ปี ให้รอลงอาญา
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษฯ ร่วมกันเปิดเผยความคืบหน้าผลทางคดี ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด 3 นักการเมืองท้องถิ่น ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี และนายก อบต. โดยที่ทาง ป.ป.ช.มีการส่งสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน คำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งนักการเมืองท้องถิ่นทั้ง 3 ราย ขณะนี้กำลังเผชิญหน้าต่อสู้คดีความทุจริตในชั้นศาล
โดยความคืบหน้าคดีที่ 1 ผู้ถูกกล่าวหารายแรก ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ชั้นต้นมีคำพิพากษาว่า นายวีระชัย รุณแสง อดีตนายกองค์การบริหารส่วน ต.เขาขาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 (เดิม) จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพหลังสืบพยานไปบ้างแล้วเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้สองในห้า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้คงจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา และผลทางอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญาเช่นเดียวกัน จากคดีทุจริตการจัดจ้างโครงการขุดลอกคลองส่งน้ำ จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการขุดลอกคลองส่งน้ำห้วยด้วน โครงการขุดลอกคลองห้วยด้วน-วังไทร และโครงการขุดลอกคลองส่งน้ำริมถนนห้วยยอด 100 ปี พร้อมกำจัดวัชพืชและปรับถมดินขอบคลองตามสภาพ รวมวงเงิน 1,098,000 บาท
คดีที่ 2 ผู้ถูกกล่าวหารายเดียวกันรายเดียวกัน ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ชั้นต้นมีคำพิพากษา นายวีระชัย รุณแสง หรือนายกฯ หมุน อดีตนายกองค์การบริหารส่วน ต.เขาขาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้จำคุก 2 ปี 6 เดือน ให้จำเลยรับโทษต่อจากโทษในคดีอาญาคดีแรก จากคดีทุจริตเกี่ยวกับโครงการบุกเบิกถนนสายเทศารัษฎา - บ้านนายท้าย หมู่ที่ 2 ต.เขาขาว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ข้อหาอื่นให้ยก
ส่วนบุคคลที่ 2 นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น (นายทักษนัย กี่สุ้น) นายกเทศมนตรี อดีตเทศมนตรี ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง (จำเลยที่ 1) กรณีถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลมีการทุจริตตามาตรา 151 , 152 , 157 ในการดำเนินโครงการปรับปรุงซ่อมแซมถนน หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และมีจำเลยร่วมด้วยอีก 5 ราย ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ชั้นต้นมีคำพิพากษา นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น (จำเลยที่1) ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 151 ให้จำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนจำเลยที่ 2-6 พิพากษามีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 151 , 83 , 86 ให้จำคุก 3 ปี 4 เดือน ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 2 เดือน 20 วัน โดยไม่รอลงอาญา
อย่างไรก็ตามสำหรับ นายธรรมศทรรศ กี่สุ้น (นายทักษนัย กี่สุ้น) นายกเทศมนตรี อดีตเทศมนตรี ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ยังคงเหลือรอผลคำพิพากษาอีก 2 คดี ภายหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลและได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาไปแล้วทั้งหมด 3 คดี
และบุคคลที่ 3 นายพีรพนธ์ ลังเมือง นายกองค์การบริหารส่วน ต.เขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 ชั้นต้นมีคำพิพากษา ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท จำเลยให้การรับสารภาพให้รอลงอาญา 2 ปี จากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลออกหนังสือเอื้อเอกชนรุกป่าชายเลน 13 ไร่ ในพื้นที่ถนนสายช่องราโพธิ์ - ทุ่งขี้เหล็ก - ถนนต้นม่วง ระยะทาง 1,130 เมตร ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส ป่าคลองไม้ตาย และอยู่ในพื้นที่จำแนกเขตการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี