อดีต ตร.เกษียณวัย 69 ถือปืนพก 9 มม. บุกเข้าบ้านจ่อยิงอดีตเมียร่วม 20 นัดดับคาห้องนอน ก่อนระเบิดขมองตัวเองปลิดชีพตายตาม รวม 2 ศพ หลังเพิ่งหย่ากันเพียง 1 เดือน แต่ฝ่ายสามียังตามราวีขู่ฆ่าไม่เลิก ขอคืนดี แต่อีกฝ่ายปฏิเสธจนมีปากเสียงรุนแรงนำไปสู่การทะเลาะวิวาทจนเกิดเหตุสะเทือนขวัญ เผยอาจจะเคลียร์กันไม่ลงตัวเรื่องทรัพย์สิน-หึงหวง
เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ 1 ส.ค.67 ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านเลขที่ 250 หมู่ 7 บ้านทับจาก ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางลงที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.รัฐกร ภักดีวานิช ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พ.ต.ท.เชษฐ์ เพชรชู สว.สส. สภ.ย่านตาขาว แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างภักดีย่านตาขาว
ถึงที่เกิดเหตุพบว่า เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ประตูรั้วประตูบ้านถูกล็อกสนิทด้วยแม่กุญแจ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังมองลอดเข้าไปเห็นตัวของ ร.ต.ท.โชค รองเดช อายุ 69 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ ยืนถืออาวุธปืนวนเวียนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว ได้พยายามพูดจา เพื่อเจรจา ด้วยการตะโกนและใช้โทรโข่งรถยนต์สายตรวจกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้วางอาวุธปืนลง และออกมามอบตัว แต่จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ตะโกนออกมาว่าให้ออกไป “ผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยร่นออกมา พร้อมกับประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หนุมานตรัง) เข้ามาร่วมปฏิบัติการครั้งนี้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการพังประตูรั้วบ้านเข้าไป เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปถึง บนแคร่ไม้สัก หลังประตูหน้าบ้านพบร่างของ ร.ต.ท.สมโชค รองเดช อายุ 69 ปี ใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดออโตเมติก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ ในสภาพเท้าตั้งอยู่บนพื้นกระเบื้อง ตรวจสอบบริเวณหน้าประตูห้องนอนพบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางยาว ภายในห้องนอนพบร่างของ นางสมคิด รัตนพันธ์ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ นั่งบนพื้นกระเบื้อง หลังพิงเตียงนอน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่ร่างกายทั้งบริเวณหน้าอกและตามลำตัวรวมแล้วกว่า 16 นัด บริเวณต้นแขนซ้ายถูกฟันด้วยของมีคม เป็นบาดแผลฉีกขาดประมาณ 1 คืบ รวมทั้งกระดูกแขนซ้ายท่อนบนหัก
เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบใกล้กับศพฝ่ายหญิง พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้แล้วตกอยู่จำนวน 16 ปลอก และกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่อีก 1 นัด มีดอีโต้ตกอยู่อีก 1 เล่ม พร้อมกับตรวจสอบอาวุธปืนที่อยู่ติดกับตัวฝ่ายชายพบว่ายังมีกระสุนคงค้างอยู่ในลำกล้องจำนวน 1 นัด พบมีแม็กกาซีนจำนวน 2 อัน ภายในไม่มีกระสุนโดยถูกกดยิงออกไปทั้งหมดแล้ว
เจ้าหน้าที่ยังคงตรวจสอบภายในบ้านพัก พบว่า หน้าหน้าต่างกระจกประตูหน้าบ้านแตก 1 บาน ลูกบิดประตูห้องนอนแตกหัก ห่างออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งเป็นหน้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ระหว่างประกาศขายพบรถ จยย. ยี่ห้อ ซูซูกิ สีแดง-ดำ ทะเบียน ขยว 256 ตรัง ซึ่งเป็นของฝ่ายชายจอดอยู่ โดยที่ยังมีกุญแจรถเสียบค้างเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกชิ้นไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก. สภ.ย่านตาขาว กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุก็ได้รีบมาทันที เมื่อมาถึง ตะโกนเรียก แต่แกไม่ขานรับ จึงเรียกชื่อพี่โชค พี่โชค แต่ก็ไม่ตอบ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด ตนจึงใช้โทรโข่งเจรจาเรียกแล้ว ก็ไม่ขาน โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย สักพักตำรวจในสังกัดได้ยินเสียงตะโกนกลับมาว่า “อย่าเข้ามาผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด สักพักหนึ่งมองลอดผ่านกระจกเห็นนั่งนิ่งอยู่ ก็เลยตัดสินใจรอชุดปฎิบัติการพิเศษศรีตรัง เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ซึ่งระยะเวลาที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยากับยิงตัวเองเสียชีวิตน่าจะใกล้เคียงกันห่างกันประมาณ 15-20 นาที
พ.ต.อ พูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นปัญหาน่าจะเกิดจากฝ่ายชายเพิ่งเลิกกับภรรยาได้ประมาณ 1 เดือน ก่อนที่ภรรยาจะย้ายไปพักอยู่กับญาติ ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ประมาณ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะยังหึงหวงกันอยู่ โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของทั้งสองคน ซึ่งภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณราชการมาหลายปีแล้ว
ด้าน นายอารัญ ชูทอง อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน กล่าวว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุฝ่ายชาย ได้ขับรถมาวนเวียนหน้าบ้าน โดยดูจากซ้ายไปขวา ก่อนที่ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ จะได้ยินเสียงฝ่ายชายตะโกนเรียกฝ่ายหญิงที่ประตูหน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงว่าฝ่ายชายเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงฝ่ายหญิงตอบรับ หรือออกมาเปิดประตูให้ ห่างไปประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน แต่ได้ยินเบามากๆ ซึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ในห้องนอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดประมาณ 4-5 นัด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันมาก่อน โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายภรรยาออกไปพักอยู่นอกพื้นที่ได้สักพักแล้ว ก่อนกลับเข้ามาเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมานี้เอง
ขณะที่ ร.ต.ท.วรเชษฐ แก้วเพ็ง อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ และเป็นเพื่อนสนิทฝ่ายชาย เล่าว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาครอบครัว เถียงกันทุกวัน เจอกันบ่อย ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน ก็ได้มาตามตนให้มาเจรจาปัญหาให้จบ ๆ กันไป เกี่ยวกับเรื่องของภรรยาเรื่องทรัพย์สิน เรื่องของในบ้านที่พี่โชคซื้อมา ให้มีการมาเจรจาคืนกลับ ซึ่งผู้ก่อเหตุโทรหาตนอยู่บ่อย เพราะเครียดเรื่องทรัพย์สินกับภรรยา จริง ๆ แล้วก็ไม่อยากเลิกรากับภรรยา โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้ก่อเหตุ 3 แสนบาทเพื่อให้เซ็นใบหย่า ซึ่งตอนเช้าก็ยังโทรหาตน เพราะบ่นว่าเครียด แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะก่อเหตุ โดยตอนเกิดเรื่อง ผู้กำกับโทรหาตน แต่ตนยังมาไม่ถึง ผู้ก่อเหตุก็ลงมือก่อเหตุเสียก่อนแล้ว
แนวทางการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีสามีและภรรยา และลูกกันมาก่อนแล้ว ก่อนจะมาอยู่กินกันที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของทั้งคู่ ได้ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีลูกด้วยกัน กระทั่งระยะหลังได้มีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง โดยเพื่อนสนิทของฝ่ายชายรู้ดี ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอหย่าร้างโดยให้เงินจำนวน 3 แสนบาทเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยที่ฝ่ายหญิงได้ไปอาศัยบ้านญาติและเพิ่งกลับมาได้ 3 วัน ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายยังเคยพูดกับเพื่อนตลอดว่า หากยิงเมียแล้วจะยิงจะตัวเองตาม โดยที่เพื่อนๆได้ห้ามปรามไว้ตลอด
กระทั่งวันนี้ฝ่ายชายได้แวะดื่มเบียร์ ก่อนจะเข้ารถมาที่บ้านหลังนี้ โดยจอดรถไว้ข้างบ้าน เดินอ้อมปืนรั้วกำแพงหลังบ้านเข้าไป และทุบหน้าต่างกระจก ใช้มือล้วงเข้าไปบิดลูกบิด และเข้าไปภายในบ้าน โดยที่ฝ่ายหญิงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน ฝ่ายชายได้พังประตูเข้าไป โดยที่ฝ่ายหญิงน่าจะถือมีดอีโต้อยู่ ก่อนจะมีปากเสียงกัน ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ไม่ยั้ง 16 นัด กระสุนดีดหลุดออกมา 1 นัด และอาจจะใช้ของแข็งทุบที่แขนจนกระดูกแตก และใช้มีดอีโต้ฟันแขน ก่อนที่ฝ่ายชายจะโทรหาเพื่อนและจบชีวิตตัวเองตาม เบื้องต้นทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ ก่อนจะมอบร่างให้กับญาตินำไปประกอบพิธีการตามศาสนาอิสลามต่อไป.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี