ตำรวจทางหลวงสระแก้วสกัดจับรถบรรทุกมันสําปะหลังน้ำหนักเกินแต่ถูกชาวบ้านกว่า 10 คนปิดล้อมโวยวายบีบให้ปล่อยอ้างวิถีชาวบ้าน แต่ตำรวจไม่ยอมส่ง สภ.ตาพระยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 5 ส.ค.67 ร.ต.อ.ประพันธ์ เอี่ยมประโคน รอง สว.ส.ทล.5กก.3 บก.ทล.(รองสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง5กองกำกับการ3กองบังคับการตำรวจทางหลวง) หรือตำรวจทางหลวงสระแก้ว ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสระแก้วออกตรวจตราและตรวจจับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน บนถนนหลวงหมายเลข 348 สายตาพระยา-จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว หลังมีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินมาวิ่งบนถนนสายดังกล่าวทำให้ถนนพังเสียหายมานานนับ 10 ปี
ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสระแก้ว ขับรถยนต์สายตรวจตำรวจทางหลวงออกตรวจบนถนนสาย 348 ตามที่ได้รับการร้องเรียน ได้ตรวจพบรถยนต์บรรทุกต้องสงสัยเป็นรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียนสระแก้ว กระบะท้ายรถคลุมทับด้วยผ้าใบสีเขียวมิดชิด ลักษณะคล้ายรถบรรทุกของหนักวิ่งมาบนถนนสาย 348 จากจุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา มุ่งหน้าเข้า อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยวิ่งสวนทางกับรถ จนท.แต่ลักษณะการขับขี่คล้ายรถบรรทุกน้ำหนักเกิน เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญานให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อขอตรวจสอบ แต่ขณะเจ้าหน้าที่กลับรถเพื่อมาตรวจสอบ รถคันดังกล่าวได้จอดทิ้งไว้ข้างทางแล้วคนขับได้วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในไร่มันสำปะหลังข้างทาง เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจึงเข้าตรวจสอบไม่พบผู้ขับขี่ แต่รถยังติดเครื่องอยู่คาดว่าคนขับรถรีบหลบหนีเพราะพบโทรศัพท์มือถือของผู้ขับขี่ยังอยู่ที่บริเวณคอนโซลหน้ารถ จึงยึดมาไว้ตรวจสอบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เปิดผ้าใบท้ายรถตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวได้บรรทุกหัวมันสำปะหลังสดมาเต็มคันรถ คาดว่าบรรทุกหัวมันสำปะหลังสดมาจากประเทศกัมพูชาโดยบรรทุกน้ำหนักมาเกินกฏหมายกำหนด เนื่องจากกฏหมายกำหนดให้รถบรรทุก6ล้อสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ไม่เกิน 15 ตัน แต่คาดว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวน่าจะบรรทุกมาไม่ต่ำกว่า 30 ตัน
ขณะเจ้าหน้าที่จึงนำรถของกลางไปตรวจสอบชั่งน้ำหนัก ปรากฏว่ามีชาวบ้านประมาณ 10 คนมาปิดล้อมเจ้าหน้าที่และรถบรรทุกไว้ไม่ให้เจ้าหน้าที่นำไปชั่งน้ำหนักโดยมีการต่อว่าเจ้าหน้าที่ว่ากลั่นแกล้งชาวบ้าน อ้างว่าการขนมันสำปะหลังจากกัมพูชาเป็นวิถีชาวบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามอธิบายว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับกุมมันสำปะหลังแต่จับกุมรถที่บรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย อีกทั้งมีชาวบ้านร้องเรียนเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินเป็นเหตุทำให้ถนนพังเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงต้องมาเข้มงวดกวดขัน แต่ชาวบ้านก็พยายามจะให้เจ้าหน้าที่ปล่อยรถคันดังกล่าวและพยายามขับไล่เจ้าหน้าที่ให้กลับไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเนื่องจากทำผิดกฎหมาย โดยใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำรถบรรทุกคันดังกล่าวไปชั่งน้ำหนักที่ลานมันฉัตรทองการเกษตร หมู่ 1 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวบ้านและจากการชั่งน้ำหนักพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวมีน้ำหนักถึง 31,530 กิโลกรัมหรือ 31 ตันเศษ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมาก
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำรถบรรทุกฯ และโทรศัพท์มือถือของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เพื่อออกหมายเรียกผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวที่หลบหนี มากล่าวโทษในความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือหนังสือแจ้งของผู้อำนวยการทางหลวงหรือเจ้าพนักงานซึ่งผู้อำนวยการทางหลวงแต่งตั้งให้ควบคุมทางหลวงหรือเจ้าพนักงานทางหลวงตามมาตรา 23(2) ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ฉบับที่2 พ.ศ.2549 มาตรา70 ต่อไป และให้ตรวจสอบการนำเข้าหัวมันสำปะหลังสด ว่าถูกต้องหรือไม่ด้วย
พล.ต.ต.ออมสิน บุญญานุสนธิ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เผยว่ากรณีชาวบ้านมาปิดล้อมตำรวจทางหลวงที่จับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินนั้น ไม่สมควรเนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ร้องเรียนเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินทำให้ถนนพังดังนั้น ตร.ภ.จว.สระแก้ว จึงได้บูรณาการร่วมกับ ขนส่งสระแก้ว, ฝ่ายปกครอง และตำรวจทางหลวงดำเนินการเข้มงวดกวดขันการกระทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะการบรรทุกน้ำหนักเกิน ดังนั้น จึงฝากไปยังผู้ประกอบการให้ดำเนินการภายใต้กฏหมาย หากฝ่าฝืนกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องจับกุม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี